เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการ พม. (ศปก.พม.) เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุมว่า
ตามที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ พม. บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ให้เห็นผลเป็นรูปธรรม ซึ่งพม.ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ปฏิบัติการจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคมเป็นวันแรกนั้น ได้พบคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานทั้งสิ้น 20 ราย แบ่งเป็นคนไร้ที่พึ่ง 11 ราย ซึ่งจากการคัดแยกพบ 4 รายมีปัญหาสุขภาพร่างกาย 2 รายเป็นู้พิการ และ 1 รายมีปัญหาสุขภาพจิต เบื้องต้นได้ดำเนินการส่งเข้ารับการคุ้มครองตามกฎหมายเฉพาะ ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง 3 ราย หน่วยงานด้านผู้สูงอายุ 2 ราย โรงพยาบาล 2 ราย และหน่วยงานด้านคนพิการ 1 ราย และหน่วยงานอื่นๆ 3 ราย
รมว.พม.กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้จับคนขอทาน 9 ราย แบ่งเป็นขอทานไทย 2 ราย ขอทานต่างด้าว 7 ราย ซึ่งในส่วนขอทานต่างด้าวได้ประสานผลักดันกลับคืนสู่ประเทศต้นทาง อย่างไรก็ตาม การลงพื้นที่ปฏิบัติการจัดระเบียบคนไร้ที่พึ่งและคนขอทานในครั้งนี้ ตนได้กำชับให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่เทศกิจ มีภารกิจหน้าที่ ในการดำเนินการเชิญตัวคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งพม. มีภารกิจหน้าที่ในการคัดกรองและส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับการคุ้มครอง ช่วยเหลือ ฟื้นฟู เพื่อพัฒนาศักยภาพและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน
