เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่แถลงการณ์โดย สมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) เนื้อหาเป็นการคัดค้านการบังคับใช้กฎหมาย มาตรา 44 กับกรณีวัดพระธรรมกาย โดยระบุว่า มาตราดังกล่าวขัดแย้งต่อหลักนิติธรรมและความยุติธรรมโดยธรรมชาติ รวมถึงสามัญสำนึกแห่งวิญญูชน
ข้อความในเอกสาร มีดังนี้
กฎหมายเป็นเครื่องมือสำหรับใช้ในการควบคุมสังคมให้อยู่กันโดยปกติสุข ดังนั้น บทบัญญัติของกฎหมายและการใช้กฎหมายจึงต้องมีหลักการในสาระสำคัญ คือ1. มีความยุติธรรมโดยธรรมชาติและสามัญสำนึกแห่งวิญญูชน2.มีความศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ยอมรับของประชาชน โดยยึดหลักนิติธรรม
ประกาศคำสั่งของ คสช.ที่ คสช.ถือว่าเป็นกฎหมายและใช้กับพลเมืองเท่าที่ผ่านมา ขัดแย้งกับหลักนิติธรรม ความยุติธรรมโดยธรรมชาติ และสามัญสำนึกแห่งวิญญูชน มีการละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลการใช้มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ในหลายกรณี ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อพลเมืองทั่วไป เมื่อการบัญญัติกฎหมายหรือกฎใดๆ ที่ปราศจากความยุติธรรมและความชอบธรรมแห่งวิญญูชนแล้ว บทบัญญัติหรือระเบียบดังกล่าวก็จะขาดความศักดิ์สิทธิ์ ส่งผลให้ประชาชนผู้ถูกบังคับใช้กฎหมายเสื่อมความศรัทธาและต่อต้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ย่อมเป็นอันตรายต่อการปกครองประเทศให้อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขได้เราสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิเสรีภาพ (สกสส.) จึงขอแถลงการณ์โต้แย้งถึงการใช้อำนาจตามความมาตรา 44 ต่อกรณีการดำเนินการกับวัดพระธรรมกาย โดยเห็นว่าขัดต่อหลักการดังกล่าวข้างต้น ทั้งนี้ เราเห็นว่ากฎหมายที่ใช้บังคับและกระบวนการยุติธรรมทางอาญายังไม่ได้ถูกล้มล้าง หรือทำให้ขาดสภาพบังคับลง ด้วยความห่วงใยต่อความสงบสุขของประชาชนโดยรวม