‘อธิบดีดีเอสไอ’ ย้ำ แจ้ง ม.116 ‘พระสนิทวงศ์’ หากผิดจริงต้องดำเนินการตามกฎหมาย

เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 3 มีนาคม 2560 ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินทางมาประชุมประเมินสถานการณ์และแนวทางปฏิบัติการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อติดตามจับกุมตัวพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร คดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ และโฆษกดีเอสไอ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกรมการปกครอง

พ.ต.อ.ไพสิฐกล่าวก่อนการประชุมเพียงสั้นๆ ถึงข้อซักถามเกี่ยวกับการดำเนินการกับพระสนิทวงศ์ วุฒิวังโส ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์กรวัดพระธรรมกาย ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองว่า ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย

ด้าน พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า หลังจากดีเอสไอได้ออกคำสั่งเรียกให้พระสนิทวงศ์มารายงานตัว โดยอาศัยอำนาจตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 5/2560 เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ได้รับการประสานจากพระสนิทวงศ์แต่อย่างใด ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่เตรียมจะดำเนินคดีกับพระสนิทวงศ์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน หากเข้าข่ายการกระทำผิดก็จะต้องมีการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป

พ.ต.อ.ทรงศักดิ์กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ยังไม่เข้าควบคุมตัวพระสนิทวงศ์ว่า แม้ว่าที่ผ่านมาพระสนิทวงศ์จะปรากฏตัวให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่เป็นประจำก็ตาม แต่กรณีของพระสนิทวงศ์แตกต่างจากนายอัยย์ เพชรทอง ซึ่งถูกดีเอสไอควบคุมมาสอบปากคำ เพราะนายอัยย์มีพฤติการณ์กระทำผิดมาแล้วก่อนหน้านี้ แต่นายอัยย์ยังฝ่าฝืนและเข้ามาในพื้นที่บริเวณวัดพระธรรมกาย เมื่อเจ้าหน้าที่พบเห็นจึงต้องเข้าทำการควบคุมตัวดังกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image