ความคืบหน้าคดีกลุ่มวัยรุ่น จ.เพชรบุรี เกือบ 30 คน ร่วมกันทำร้ายโดยใช้ไขขวงแทงท้ายทอย นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน อายุ 24 ปี นักศึกษา ม.ศิลปากร คณะสัตวศาสตร์เทคโนโลยีปีที่ 4 เสียชีวิตในหอพักเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2560 แต่คดีไม่มีความคืบหน้า เนื่องจากผู้ก่อเหตุหลายคนเป็นลูกผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งคนมีสีและนักการเมืองท้องถิ่น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 5 มีนาคม ที่บ้านของผู้เสียชีวิตในพื้นที่หมู่ที่ 5 ต.ปากตะโก อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ซึ่งเป็นที่ตั้งงานบำเพ็ญกุศลศพ นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ ปอนด์ นั้น นางอรุณี ดีสุวรรณ อายุ 52 ปี ป้าของผู้ตายเปิดเผยว่า ได้พยายามติดตามสอบถามความคืบหน้าของคดีจากตำรวจ สภ.อ.ชะอำ ท้องที่เกิดเหตุ แต่ได้รับคำตอบเพียงว่า ขณะนี้มีกลุ่มวัยรุ่นต้องสงสัยเดินทางเข้ามอบตัวแล้ว 15 คน ตำรวจได้สอบปากคำก่อนปล่อยตัวไป เนื่องจากยังไม่มีการออกหมายจับ แต่รายละเอียดในสำนวนตำรวจไม่ได้เปิดเผย เมื่อสอบถามถึงหลักฐานในคดีที่สำคัญ อาทิ รถยนต์คันที่ นายไบรท์ มือไขควงที่แทงนายธีระพงษ์ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้ชัดเจนว่าเป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีดำ ตำรวจกลับบอกว่า ยังไม่สามารถนำเอารถคันดังกล่าวมาได้ ทั้งที่มีผู้พบเห็นรถคันดังกล่าววิ่งอยู่ใน อ.ชะอำแทบทุกวัน และเจ้าของรถก็คือนายตำรวจยศ พ.ต.ท.มีตำแหน่งเป็น รอง ผกก.โรงพักแห่งหนึ่งนอก จ.เพชรบุรี
นางอรุณี กล่าวว่า ทราบว่านายตำรวจคนดังกล่าวได้นำรถไปทำลายรอยนิ้วมือแฝงในจังหวัดที่เป็นรอง ผกก.อยู่ทางภาคอีสาน ซึ่งรอยนิ้วมือของนายไบรท์คงมีอยู่จำนวนมากในที่เกิดเหตุด้วย หากได้รอยนิ้วมือจากรถคันดังกล่าวก็จะทำให้มีหลักฐานเพิ่มมากขึ้น แต่ขณะนี้หลักฐานสำคัญที่จะมัดตัวผู้ต้องหากำลังถูกทำลายทั้งหมด แสดงให้เห็นถึงความไม่ถูกต้องที่กำลังเกิดขึ้น จึงขอเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวของนายธีระพงษ์และเพื่อนๆ ที่ได้รับบาดเจ็บอีก 2 คนด้วย ส่วนผู้ต้องหาอีกคนทราบว่าเป็นทหารสังกัดหน่วยหนึ่งใน จ.ราชบุรี และกำลังศึกษาระดับนายสิบทหารช่างของหน่วยดังกล่าวด้วย แม้แต่ไขควงที่เป็นอาวุธแทงน้องปอนด์จนตาย ช่วงที่ตำรวจดึงออกจากศีรษะนายธีระพงษ์ยังใช้มือเปล่าจับโดยไม่สวมถุงมือ และนำไปเก็บไว้ในลิ้นชัก แต่ไม่มีการตรวจเก็บดีเอ็นเอหรือลายมือของคนร้ายแต่อย่างใด คดีนี้จึงมีแนวโน้มจะทำให้คนร้ายทั้งหมดหลุดคดีแน่นอน และหลานชายของฉันต้องตายฟรีแน่
เพื่อนของนายธีระพงษ์คนหนึ่ง เปิดเผยถึง พฤติกรรมความโหดร้ายของกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุว่า วันเกิดเหตุหัวโจกของกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้คือ “นายไบรท์” เป็นบุตรชายนายตำรวจ ยศ พ.ต.ท.ซึ่งเป็นรอง ผกก.สถานีตำรวจแห่งหนึ่งนอก จ.เพชรบุรี “นายอาร์ท” หลานชายของตระกูลดังใน จ.เพชรบุรี ทหารระดับนายสิบจากหน่วยทหารใน จ.ราชบุรี และลูกผู้มีอิทธิพลอีกหลายคน ซึ่งตั้งใจเดินทางมาทำร้ายนักศึกษา ม.ศิลปากร อีกห้องหนึ่งที่ชอบคุยกับแฟนสาวของนายอาร์ท เมื่อไม่เจอนายอาร์ทจึงเดินมาที่ห้องที่มีนักศึกษาอีกคนที่เคยห้ามกลุ่มวัยรุ่นไม่ให้ทำร้ายรุ่นน้องเพื่อต้องการสั่งสอน แต่ไม่เจอทั้ง 2 คน ทำให้ไม่พอใจอย่างมาก จึงทำร้ายทุกคนที่ขวางหน้า กลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ก่อคดีมาแล้วหลายคดีแต่ไม่เคยถูกจับ เพราะมีพ่อของทุกคนคอยปกป้องและเคลียร์ให้ทุกเรื่อง ทำให้วัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ใจ สร้างความหวาดกลัวอย่างมากแก่ชาวบ้านใน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ใครมีแฟนสาวหน้าตาดีก็จะถูกวัยรุ่นกลุ่มนี้มาบังคับนำตัวไปล่วงเกิน แต่ไม่มีใครกล้าแจ้งความ ถ้าผู้ชายคนใดคุยกับแฟนสาวของวัยรุ่นกลุ่มนี้ก็จะถูกมีดไล่ฟันเพื่อไม่ให้มายุ่งกับแฟนของวัยรุ่นกลุ่มนี้
