เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่รื้อถอนโครงการวิลล่าหรูเกาะสมุยอีกครั้ง เจ้าของแจ้งความทำให้เสียทรัพย์
เทศบาลนครเกาะสมุย กอ.รมน.ภาค 4 และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ใช้มาตรการบังคับทางปกครองเข้ารื้อถอนโครงการวิลล่าหรูบนเกาะสมุยอีกครั้ง พบบางหลังยังมีผู้อยู่อาศัยอยู่ นิติกรเตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดผู้ฝ่าฝืน ด้านทนายความแจ้งความกลับ เอาผิดเจ้าหน้าที่ ฐานร่วมกันบุกรุก และทำให้เสียทรัพย์
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 23 ตุลาคม นายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติเข้ารื้อถอนอาคารวิลล่าหรู จำนวน 11 หลัง โครงการอาริยะ เรสซิเดนท์ พื้นที่หมู่ 3 ต.มะเร็ต อ.เกาะสมุย อาคารทั้งหมดก่อสร้างผิดกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522
หลังจากที่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา การเข้ารื้อถอนไม่สำเร็จ เนื่องจากมีทนายความของเจ้าของโครงการอ้างสิทธิทางกฎหมาย คัดค้านและห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการตามคำสั่งทางปกครอง โดยหลังจากเกิดเหตุมีผู้ขัดขวาง นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุยได้เข้าลงบันทึกประจำวันที่ สภ.บ่อผุด และเตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับทนายความในข้อหาขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
ขณะที่ นายนันธวัธ เจริญวรรณ รอง ผอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ปฏิบัติราชการแทน ผอ.รมน.จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร5119.17/466 ถึงนายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ขอให้เทศบาลนครเกาะสมุยในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่น ติดตามและดำเนินการบังคับใช้มาตรการบังคับทางปกครองกับผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร ตามความในมาตรา 43 (2) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ต่อผู้ฝ่าฝืน เพื่อให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถใช้มาตรการบังคับทางปกครองเข้าดำเนินการรื้อถอนอาคารตามความในมาตรา 42 และมาตรา 43 วรรคสาม โดยไม่ต้องไปยื่นคำร้องต่อศาลตามมาตรา 43 (1) แห่ง พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แต่อย่างใด โดยให้เริ่มดำเนินการมาตรการบังคับทางปกครองภายในวันที่ 22 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป
โดยในการเข้ารื้อถอนครั้งนี้ ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งฝ่ายปกครองอำเภอเกาะสมุย ตำรวจ สภ.บ่อผุด กอ.รมน.ภาค 4 เข้าร่วมรักษาความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยมี ร.ต.ต.พงศกร มีพันธุ์ ผอ.สอบสวน 4 สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.อ.ดุสิต เกษรแก้ว หัวหน้าชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 เจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬา จ.สุราษฎร์ธานี เข้าร่วมสังเกตุชการณ์
เจ้าหน้าที่ได้ใช้ค้อนปอนด์ทุบแม่กุญแจ และชะแลงเหล็กงัดประตูด้านหน้าโครงการ เพื่อเปิดเข้าไปในพื้นที่เพื่อสำรวจอาคารทั้ง 11 หลัง ว่าจะต้องรื้อถอนอย่างไร ใช้งบประมาณเท่าไร วิธีการอย่างไรตามหลักของวิศวกรรมโยธา แต่ขณะที่เข้าไปตรวจสอบพบว่าวิลล่าบางหลังยังมีผู้พักอาศัยอยู่ภายใน มีการล็อกประตูไว้ เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้เปิดประตู แต่ผู้อาศัยไม่ยอมเปิดประตู และไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเจรจาผ่านประตูชี้แจงถึงสาเหตุของการรื้อถอน และขอความร่วมมือผู้ที่อาศัยอยู่ในอาคารออกจากที่พักทันที หากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มีการนำโปลิสไลน์มาปิดกั้นสถานที่ พร้อมปิดป้ายระบุข้อความ เขตรื้อถอนอาคารห้ามเข้า
นายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย กล่าวว่า ในวันนี้เป็นมาตรการทางปกครองในการรื้อถอนอาคาร โดยจะเริ่มดำเนินการกั้นพื้นที่อาคาร และประกาศเป็นเขตรื้อถอนห้ามเข้า ในส่วนของการขัดขวางการเข้าพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ในวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ก็ได้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บ่อผุด และในวันที่ 25 ตุลาคม ก็จะนำหลักฐานไปแจ้งความ กรณีที่มีการขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด
นายพัลลภกล่าวอีกว่า โครงการนี้เป็นโครงการที่ได้รับการอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารตามที่กฎหมายกำหนด จำนวน 11 หลัง และมี 7 ใบอนุญาตก่อสร้าง แต่ขณะที่ทำการก่อสร้างได้มีการก่อสร้างผิดไปจากที่กฎหมายกำหนด จากนั้นเทศบาลนครเกาะสมุยได้ปิดคำสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ห้ามใช้อาคาร แก้ไข แต่โครงการไม่ยอมแก้ไข ไม่อุทธรณ์คำสั่ง จนมีคำสั่งให้รื้อถอนอาคารในปี 2562 และปี 2567 จนกระบวนการถึงที่สุด ทำให้อาคารนี้เป็นอาคารที่ผิดกฎหมาย จึงจำเป็นต้องใช้มาตรการทางปกครองให้รื้อถอนเป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 กำหนดไว้ เบื้องต้นคำนวณค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 11 ล้านบาท ซึ่งในศักยภาพของเทศบาลไม่สามารถรื้อถอนเอง ต้องมีการจัดซื้อจัดจ้าง โดยตามกฎหมายเจ้าของอาคารเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้
ผู้สื่อข่าวเปิดเผยอีกว่า เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ สภ.บ่อผุด นายชุมพล หิมทอง ทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากบริษัท บีเอส 2 บราเธอร์ส จำกัด เจ้าของโครงการอาริยะ เรสซิเดนท์ ได้เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ฐานร่วมกันบุกรุกตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป และทำให้เสียทรัพย์