สุดสลด! แม่ปิ่มใจจะขาดนั่งกอดศพลูก 5 ขวบจมน้ำดับ พ่อทนรอ จนท.ไม่ไหว-อุ้มร่างขึ้นรถขนศพไปวัด
เมื่อเวลา 13.40 น. วันที่ 8 มี.ค.60 วิทยุศูนย์นครชัย สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งจากนายนคร อมรินทร์ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเหล่าภูมี หมู่ 13 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ว่า มีเด็กจมน้ำเสียชีวิตในพื้นที่ ขอให้มาชันสูตรพลิกศพด้วย หลังรับแจ้งมี ว่าที่ ร.ต.ศิริวัฒน์ ขันตี หน.ปภ.เทศบาล ต.หนองญาติ พร้อมเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.210 และกู้ชีพเทศบาล ต.หนองญาติ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากหน้าที่ทำการผู้ใหญ่บ้านประมาณ 50 เมตร พบสระน้ำในโครงการอนุรักษ์ฟื้นฟูแหล่งน้ำห้วยนา กว้าง 15 เมตร ยาว 30 เมตร ลึก 2 เมตร บนคันขอบสระ พบรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ เสื้อยืดแขนยาวสีดำสลับขาวลายรูปเป็ดและกางเกงในตกอยู่ บนริมตลิ่งพบชาวบ้านจำนวนมากมุงดูสภาพศพ ด.ช.บี (นามสมมุติ) วัย 5 ขวบ นักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนเหล่าภูมีคำพอก นอนหงายร่างไร้วิญญาณ มีผ้าห่ม 2 ผืนคลุมร่างที่เปียกปอน ท่ามกลางฝนที่ตกรินลงมาตลอดเวลา
ใกล้ร่างหนูน้อยพบนายนิกร ชัยสงคราม อายุ 31 ปี และ น.ส.จิตรฤดี สิทธิสอน อายุ 26 ปี บิดาและมารดา ด.ช.น้อย นั่งคุกเข้าร้องห่มร้องไห้กอดศพลุก พร้อมกับสลับกันปั๊มหัวใจและจูบแก้มพร้อมปากของบุตรชาย โดยนายนิกร ผู้เป็นบิดายังได้นำผ้าห่ม 2 ผืนมาปกคลุมร่างบุตรชาย พร้อมนำหมวกทหารที่บุตรชายชอบมาสวมใส่ให้ด้วย ร้องไห้น้ำตาอาบแก้มหยอดใส่ร่างบุตรชายนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่มาชันสูตร เป็นที่น่าเวทนาแก่ผู้พบเห็น
นายนคร กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเด็กที่ไปเล่นน้ำกับ ด.ช.น้อย ว่ามีเพื่อนจมน้ำในสระขอให้ไปช่วยด้วย จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พบศรีษะ ด.ช.บีโผล่ จึงได้ร่วมกับชาวบ้านอุ้มร่างขึ้นมาไว้บนตลิ่งและปั๊มหัวใจและเขย่าร่างนานกว่า 20 นาที แต่ไม่เป็นผล โดยก่อนเกิดเหตุ ด.ช.บี ผู้ตาย ได้ไปเล่นน้ำกับกับเพื่อนวัยใกล้เคียงรวม 2 คนตั้งแต่ช่วงสาย แต่เพื่อน 2 คน ไม่ได้ถอดเสื้อผ้าลงเล่นด้วย กระทั่ง ด.ช.น้อย จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว
นายนิกร ร้องตะโกนถามนายนคร ผู้ใหญ่บ้าน ว่า เมื่อไหร่เจ้าหน้าที่จะมาสักที บุตรชายตนยังตัวอุ่นๆอาจจะช่วยได้ทันเวลา พร้อมทั้งปั๊มหัวใจและก้มจูบบุตรชายเป็นระยะๆ พร้อมกล่าวว่า “พ่อไม่มีปัญญาจะช่วยลูกได้ทันเวลา” และไม่มีใครมาช่วยได้เลยหรือไง หมอและแพทย์ไปไหนหมดทำไมไม่เห็นมาช่วยลูกตนสักที นายนครจึงตอบกลับไปว่า ให้นายนิกรทำใจเสีย ก่อนตอบกลับไปว่า ให้นายนิกรทำใจเสียเถอะตนช่วยปั๊มหัวใจมานานแล้ว แต่ ด.ช.บี ก็ไม่ฟื้นไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร
ขณะที่พ่อของหนูน้อย ตะโกนร้องว่า หากไม่มีใครมาตนจะนำร่างบุตรชายออกไปจากที่เกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านจึงบอกให้รอก่อน และติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่เพื่อรอชันสูตรอีกรอบ จนเวลาผ่านไปเนิ่นนาน ได้มีรถกระบะสีขาวของวัดศรีชมชื่นแล่นเข้ามาบริเวณจุดเกิดเหตุ นายนิกร บิดาของ ด.ช.วัย 5 ขวบ จึงตะโกนบอกชาวบ้านว่า ตนทนรอไม่ไหวแล้ว จึงรีบอุ้มร่างบุตรชายขึ้นท้ายรถกระบะมุ่งตรงไปยังวัดศรีชมชื่น เพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
หลังจากที่ศพ ด.ช.น้อย เคลื่อนออกไปจากที่เกิดเหตุแล้ว ชาวบ้านได้จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ถึงความล่าช้าของเจ้าหน้าที่ พร้อมแสดงความไม่พอใจถึงล่าช้า และใช้เวลาเดินทางนาน 2 ชั่วโมง ทั้งที่พื้นที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากตัวเมืองแค่ 14 กิโลเมตร ก่อนแยกย้ายสลายตัวไปสมทบกันที่วัดศรีชมชื่น
