ป้าติ๋ม หมดสิทธิรับมรดก 100 ล้าน แจ้งข้อหา 2 บริษัทนอมินี แหม่มฝรั่งเศส ครองที่ดินผิดกม.

ดับฝันป้าติ๋มแม่บ้าน หมดสิทธิรับมรดก 100 ล้านของแหม่มชาวฝรั่งเศส หลังตำรวจสืบสวนนานร่วม 7 เดือน หอบหลักฐานเรียก 2 คนไทยนอมินีแหม่ม จดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลถือครองที่ดินและทำธุรกิจซื้อขายวิลล่าบนเกาะสมุย

เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย (ศปชก.) ภ.จว.สุราษฎร์ธานี มอบหมายให้ พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ ร่มไทร รอง ผกก.สอบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ปฏิบัติหน้าที่คณะพนักงานสอบสวนประจำ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวน สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ให้ดำเนินคดีกับบริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด, บริษัท แม็กซิเคท จำกัด ในฐานะนิติบุคคล, นางแคทเทอร์รีน โจรี่ โรแลนด์ เจอร์แมน เดลาโคท อายุ 59 ปี สัญชาติฝรั่งเศส

ในข้อหา ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, เป็นบุคคลต่างด้าวประกอบธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้คนต่างด้าวประกอบกิจการด้วยเหตุผลพิเศษตามที่กำหนดไว้ในบัญชีหนึ่ง (การค้าที่ดินตามบัญชีหนึ่ง(9)), เป็นคนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และเป็นบุคคลต่างด้าวยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทย หรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้

และ นายทองใส อายุ 50 ปี ชาวสุราษฎร์ธานี นางรัชประภา อายุ 36 ปี ชาวนครศรีธรรมราช ในข้อหาร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ, ร่วมกันสนับสนุนช่วยเหลือให้คนต่างด้าวได้ที่ดินมาโดยผิดชอบด้วยกฎหมาย, เป็นผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ความช่วยเหลือหรือสนับสนุนหรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว อันเป็นธุรกิจที่กำหนดไว้ในบัญชีท้ายพระราชบัญญัตินี้ (การค้าที่ดิน ตามบัญชีหนึ่ง(9)) โดยคนต่างด้าวนั้นมิได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจดังกล่าว หรือร่วมประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวโดยแสดงออกว่าเป็นธุรกิจของตนแต่ผู้เดียวหรือถือหุ้นแทนคนต่างด้าวในห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจำกัด หรือนิติบุคคลใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวประกอบธุรกิจโดยหลีกเลี่ยงหรือฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ รวมทั้งคนต่างด้าวซึ่งยินยอมให้ผู้มีสัญชาติไทยหรือนิติบุคคลที่มิใช่คนต่างด้าวตามพระราชบัญญัตินี้กระทำการดังกล่าว

ADVERTISMENT

โดย พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ได้มอบสำนวนการสืบสวนและพยานหลักฐาน ต่อพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ADVERTISMENT

ขณะที่ พ.ต.อ.ศิริชัย สุขสาตต์ รอง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี/รอง ผอ.ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี แหม่มสาวนักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุยใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ก่อนตายทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้แม่บ้านคนสนิท มูลค่าร่วม 100 ล้านบาท เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา จนทำให้เป็นสนใจของคนไทยทั้งประเทศ ขณะเดียวกันปรากฏการณ์ดังกล่าวก็ได้สร้างความกังขาให้กับสังคมเช่นกัน โดยเฉพาะประเด็นทรัพย์สินเกี่ยวกับที่ดินและสิ่งปลูกสร้างว่า ชาวต่างชาติสามารถถือครองและโอนทรัพย์สินให้กับผู้อื่นได้หรือไม่

ซึ่งทางผู้บังคับบัญชาจึงได้มอบหมายให้ ศปชก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เข้าสืบสวนสอบสวนมาอย่างต่อเนื่องจนพบพยานหลักฐานที่ทำให้เชื่อว่า การดำเนินธุรกิจในลักษณะนิติบุคคลที่มีบุคคลต่างด้าวเป็นกรรมการ เข้าข่ายความผิดลักษณะของตัวแทนอำพราง ซึ่งเราได้ใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานจนมั่นใจว่าสามารถเอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องได้ จึงเป็นที่มาของการเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยในการสืบสวนยังพบว่ามีสำนักงานกฎหมายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และให้การช่วยเหลือในการจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคลของชาวต่างด้า ซึ่งประเด็นของสำนักงานกฎหมาย จะต้องมีการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในเร็วๆ นี้

สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2567 พนักงานสอบ สภ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี รับแจ้งเหตุ นางแคทเทอร์รีน อายุ 59 ปี ชาวฝรั่งเศส นักธุรกิจวิลล่าให้เช่าบนเกาะสมุย ใช้ปืนจ่อขมับปลิดชีพตัวเองริมสระน้ำในวิลล่าหรู ที่ ต.แม่น้ำ ชึ่งตำรวจได้สืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดเนื่องจากการตรวจสอบพบว่าก่อนเสียชีวิตผู้ตายได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้กับ นางณัฐวลัย หรือป้าติ๋ม ซึ่งเป็นคนใช้คนสนิท ประกอบด้วย บ้านหรือวิลล่าหรูพร้อมที่ดินที่เกิดเหตุ มูลค่าราว 30 ล้านบาท ที่ดินเปล่า 2 แปลง ที่มีพื้นที่ติดกับวิลล่า มูลค่าราว 20 ล้าน และทรัพย์สิน เครื่องประดับบางส่วนที่ตู้เซฟ รวมถึงเงินสดในธนาคารอีกจำนวนหนึ่ง โดยรวมมูลค่าที่ป้าติ๋มได้รับราว 100 ล้านบาท แต่การสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่พบว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากไม่พบพิรุธหรือข้อบ่งชี้ว่ามีบุคคลอื่นทำให้เสียชีวิต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
หลักฐานชัด แหม่มฝรั่งเศส จบชีวิตตัวเอง ตร.ชี้มรดก 100 ล้านของป้าติ๋ม กำลังดำเนินการ
เปิดพินัยกรรมแหม่มฝรั่งเศส ยกมรดกให้แม่บ้านคนไทย ตอบแทนดูแลมา 17 ปี
พินัยกรรม 100 ล้าน แหม่มลาโลก ใจดีให้เงินคนดูแลสระน้ำ วงจรปิดชัด ป้าติ๋มบริสุทธิ์
เปิดข้อความสุดซึ้ง มาดาม ‘แคทเทอร์รีน’ เขียนถึง ‘ป้าติ๋ม’ แม่บ้านคนสนิท รับมรดก 100 ล้าน
เปิดใจป้าติ๋ม ปล่อยโฮ หลังรับมรดก-แมวอีก3ตัว ยัน ไม่ขายวิลล่า เผย เสียใจที่สุดไม่มีเจ้านายแล้ว

อย่างไรก็ตามหลังปรากฏเป็นข่าว นายรัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้ออกมาเรียกร้องให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเกี่ยวกับความถูกต้องในการถือครองทรัพย์สิน รวมถึงการดำเนินกิจการธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลเพื่อถือครองทรัพย์สินโดยเฉพาะที่ดินในประเทศไทย รวมถึงให้มีการตรวจสอบการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อครอบครองวิลล่าของชาวต่างชาติ ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย และรักษาผลประโยชน์ของประเทศ

และต่อมา พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ในขณะนั้น ได้สั่งการให้ชุดแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ทำลายทรัพยากรธรรมชาติธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 กอ.รมน.ภาค 4 เข้าตรวจสืบสวนหาข่าว และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ จนนำไปสู่การตรวจสอบการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรูบนเกาะสมุย ตามข่าวที่นำเสนออย่างต่อเนื่องไปแล้วนั้น และ นายเจษฎา จิตรัตน์ ผวจ.สุราษฎร์ธานี ก็มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงตามมาตรการป้องกันการถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว พื้นที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เข้าดำเนินการตรวจสอบเช่นกัน

โดยคณะกรรมการตรวจสอบและสอบสวนข้อเท็จจริงรายงานการตรวจสอบได้ผลสรุปว่า ผู้เสียชีวิตคือ นางแคทเทอร์รีน โรแลนด์ เจอร์เมน เดลาโคท หรือชื่อ นางแคทเทอร์รีน โรแลนด์ เจอร์แมน เดอลาโคท, นางแคทเธอรีน โรแลนด์ เจอร์เมน ดิลาโคท เป็นกรรมการบริษัท 2 บริษัท คือ บริษัท จี.วี.เอ็น.อี. จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2555 วัตถุประสงค์ ขณะจดทะเบียนประกอบกิจการให้เช่าที่พัก รีสอร์ต บังกะโล และบ้านพักตากอากาศ และ บริษัท แม็กชิเคท จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2551 วัตถุประสงค์ขณะจดทะเบียนประกอบธุรกิจรับเป็นที่ปรึกษาและให้คำแนะนำเกี่ยวกับธุรกิจคอมพิวเตอร์

โดยทั้ง 2 บริษัทมีชื่อนางแคทเทอร์รีนเป็นกรรมการ ซึ่งลงชื่อผูกพันบริษัทแต่เพียงผู้เดียว จึงมีเหตุสงสัยว่าบริษัททั้ง 2 ถือครองที่ดินแทนคนต่างด้าว และมีการฝ่าฝืนกฎหมายโดยการถือครองที่ดินไว้แทนคนต่างด้าวโดยมิชอบ ในลักษณะตัวแทนอำพราง (นอมินี)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image