นายกทันตแพทยสภาโวย “ปรมาณูเพื่อสันติ” ยื้อ กฎยกเว้นเครื่องเอกซเรย์ฟัน

เมื่อวันที่ 12 มีนาคม ทพ.ไพศาล กังวลกิจ นายกทันตแพทยสภา กล่าวถึงกรณีการบังคับใช้กฎหมายพลังงานนิวเคลียร์ฉบับใหม่ ว่า ที่ผ่านมาทันตแพทยสภาร่วมกับสภาวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขได้มีมติตรงกันว่าให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) ออกกฎกระทรวงยกเว้นให้เครื่องกำเนิดรังสีทางการแพทย์หรือเครื่องเอกซเรย์ที่ใช้ในทางการแพทย์ รวมถึงเครื่องเอกซเรย์ทันตกรรมไม่อยู่ภายใต้ข้อบังคับของกฎหมายนี้ เพราะมีความเห็นตรงกันว่า ปริมาณรังสีไม่ได้เป็นอันตรายต่อผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ซึ่งในทางสากลก็ปฏิบัติตามนี้ คือ ยกเว้นเครื่องเอกซเรย์ทางการแพทย์ โดยทางทันตแพทยสภาจะเป็นผู้กำกับและควบคุมการใช้งานของทันตแพทย์ โดยมีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ทำหน้าที่ควบคุมเหมือนเช่นเดิม

นายกทันตแพทยสภา กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ดำเนินการจนถึงขั้นตอนการเข้าพบรัฐมนตรีวท. ก็มีความเห็นตรงกันว่าจะดำเนินการออกกฎกระทรวงยกเว้น รวมถึงความเห็นของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่เห็นว่าต้องยกเว้นเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) ก็รับรู้ขั้นตอนมาโดยตลอด แต่ด้วยเหตุใดไม่ทราบ ล่าสุดทาง ปส.ยังทำหนังสือเชิญผู้ประกอบการคลินิกทันตกรรมไปร่วมสัมมนาเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎกระทรวง ซึ่งทันตแพทยสภาเห็นว่า เรื่องนี้ชัดเจนแล้ว ขณะนี้วท. ต้องเร่งออกกฎกระทรวงยกเว้นเครื่องเอกซเรย์ทางการแพทย์เท่านั้น ไม่ควรดึงเวลาให้ยืดเยื้อเช่นนี้ ทำให้วิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขยังมีปัญหาติดขัด ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะกฎหมายยังไม่ชัดเจน

“การดำเนินการแบบนี้ของ ปส.เหมือนต้องการยื้อเวลาออกไป ทำให้ทันตแพทย์ที่ประกอบการคลินิกทันตกรรมได้รับผลกระทบอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มที่ต้องต่อใบอนุญาตที่ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีกฎกระทรวงออกมารองรับ จึงทำให้หากจะประกอบการคลินิกทันตกรรมต่อไปได้ ต้องไปขอใบอนุญาตจาก ปส.เท่านั้น หาก ปส.ยังคงดำเนินการเช่นนี้ ก็แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ได้ต้องการแก้ปัญหาร่วมกัน จึงอยากขอความจริงใจจาก ปส. ” ทพ.ไพศาล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image