เมื่อวันที่ 13 มีนาคม นายประสงค์ อุไรวรณ์ นายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ กล่าวว่า กรณีผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งใน ต.วังดิน อ.เมืองอุตรดิตถ์ ถูกจับกุมลักลอบตัดไม้สักในเขตป่าเพื่อนำมาสร้างบ้านตัวเอง และถูกศาลตัดสินว่า มีความผิดจริงทั้งเป็นผู้ตัดและจ้างวานตัดไม้สัก แต่ยังทำหน้าที่อยู่ ไม่มีการดำเนินการทางวินัย ทั้งที่ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลและทางจังหวัดที่ห้ามไม่ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เซ็นรับรองการตัดไม้สักในพื้นที่ เรื่องนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2547 แล้ว ซึ่งเป็นการเกิดก่อนที่ตนมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ศาลอุตรดิตถ์ก็ตัดสินแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2559 นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนจากประชาชนถึงพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสมและพึงปรารถนาอีกหลายเรื่องด้วย
นายประสงค์ กล่าวว่า ในทางกฎหมายแล้ว ผู้ใหญ่บ้านรายนี้ขาดคุณสมบัติความเป็นผู้ใหญ่บ้านตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว แต่ก่อนหน้าที่ตนจะมาดำรงตำแหน่งนายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์กลับไม่มีการดำเนินการอะไรตามกระบวนการที่สมควรจะดำเนินการ มีการดองเรื่องเก็บไว้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีคำสั่งย้ายด่วนปลัดอำเภอที่รับผิดชอบ ต.วังดิน ไปประจำอยู่ที่ห้องปกครอง จ.อุตรดิตถ์แล้ว จากนั้นก็สังการให้ขอคัดสำเนาคำพิพากษาของศาลกรณีดังกล่าว เพื่อดำเนินการปลดออกจากตำแหน่งอย่างเร่งด่วน แต่ทั้งนี้ให้โอกาสผู้ใหญ่บ้านรายนี้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา แต่จะอุทธรณ์อย่างไรก็ไม่เป็นผล เพราะขาดคุณสมบัติความเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้ว
“ผู้ใหญ่บ้านจะต้องวางตัวให้เหมาะสม พฤติกรรมที่ไม่พึงปรารถนาของสังคมไม่ว่าจะเป็นเรื่องของยาเสพติด ตัดไม้ทำลายป่า กดขี่ข่มเหง รังแกชาวบ้าน ยิ่งไม่สมควรกระทำโดยเด็ดขาด เพราะการเข้ามาเป็นผู้ใหญ่บ้านนั้นไม่มีใครบังคับให้มาเป็น อาสาเข้ามาเป็น จะบ่นว่างานหนักงานเยอะก็ต้องทำถือว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องให้บริการประชาชนที่เลือกเข้ามา ถ้าไม่รู้จักหน้าที่ของตัวเอง หรือไม่ชอบการบริการประชาชนก็แนะนำให้ลาออกไป และต้องสำนึกและตระหนักเสมอว่า อาสาเข้ามาทำต้องทำไม่ควรบ่นงานในหน้าที่อย่างเด็ดขาด อย่างไรก็ตามในเร็ววันนี้อาจจะมีผู้ใหญ่บ้านอีกหลายรายที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะก่อนหน้านี้ช่วงดำรงตำแหน่งนายอำเภอท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ก็เอาออกไปแล้วหลายราย” นายประสงค์ กล่าว
แหล่งข่าวจาก ต.วังดิน กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา ผู้ใหญ่บ้านและน้องสาวได้ใช้เครื่องขยายเสียงของหมู่บ้าน ประกาศเสียงในทำนองดุด่าว่ากล่าวชาวบ้านกลุ่มหนึ่งที่ร้องเรียนถึงพฤติกรรมของตัวเองให้กับทางจังหวัดและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ จนนำไปสู่การสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด กระทั่งศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง การกระทำดังกล่าวของผู้ใหญ่บ้านและน้องสาวใช้หอกระจายข้าวประจำหมู่บ้านด่าทอชาวบ้านนั้น มีขึ้นหลังจากมีการนำเสนอข่าวทางสื่อมวลพร้อมนำไปเผยแพร่ทางเฟสบุ๊กและไลน์ จึงสร้างความไม่พอใจและได้แสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกอีกก่อนที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยนายอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ในไม่ช้านี้
