เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมปรึกษาหารือเพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการท่องเที่ยว การศึกษา และวัฒนธรรม เพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้าน (ลาว จีน เวียดนาม) ระหว่าง จ.เลย และ จ.เพชรบูรณ์ ณ โรงแรมเลยพาเลซ จ.เลย เมื่อวันที่ 14 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยมีนายคุมพล บรรเทาทุกข์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย และนายพิบูลย์ หัตถกิจโกศล ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งต่างนำหัวหน้าส่วนราชการและตัวแทนจากองค์กรการค้าภาคเอกชน ได้แก่ หอการค้าและสภาอุตสาหกรรมจังหวัด รวมทั้งตัวแทนมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยและเพชรบูรณ์ เข้าร่วมหารือ ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้ข้อสรุปในเบื้องต้นที่จะสร้างความร่วมมือส่งเสริมและสนับสนุนในด้านเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวและสังคม (การศึกษา,วัฒนธรรม) โดยเริ่มจาก 2 จังหวัดก่อน จากนั้นจึงค่อยเชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาว, เวียดนาม และจีน โดยเน้นความสำคัญของเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกเฉียงเหนือ Northeastern Economic Corridor (NEEC) และด่านสากลบ้านนากระเซ็ง ซึ่งจะได้เชื่อมโยงไปยัง ไซยะบุรี หลวงพระบาง เดียนเบียนฟู ฮานอย และเชียงรุ้ง
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความเห็นชอบในเบื้องต้น โดยให้ทั้ง 2 จังหวัดต่างฝ่ายต่างจัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา ขณะเดียวกันยังเสนอให้ใช้ศักยภาพของสถาบันอุดมศึกษาในพื้นที่ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภัฏเลยและเพชรบูรณ์ จัดตั้งเป็นศูนย์ประสานงานภาค และรับเป็นฝ่ายเลขานุการคณะทำงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งโครงการพัฒนาแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกเฉียงเหนือ Northeastern Economic Corridor (NEEC) อย่างเป็นทางการ ในส่วนชื่อกลุ่มและโครงการที่จะใช้อย่างเป็นทางการที่ประชุมได้แจ้งให้ทั้งสองฝ่ายช่วยไปคิดหรือทำการบ้าน เพื่อนำเสนอในการประชุมครั้งหน้า
นายพิบูลย์กล่าวว่า ถือเป็นมิติใหม่โดยเป็นการจับมือข้ามกลุ่มจังหวัดและข้ามภาค โดยเพชรบูรณ์อยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ในขณะที่ จ.เลย อยู่ในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 แต่เนื่องจากมีแนวเขตจังหวัดติดต่อกันและมีศักภาพพื้นที่ ประชากร วัฒนธรรม รวมทั้งต่างมีภาษาถิ่นที่คล้ายคลึงกัน จึงจับมือพัฒนาร่วมกันโดยเน้นความสำคัญเส้นทางตามแนวระเบียงเศรษฐกิจตะวันออกเฉียงเหนือ Northeastern Economic Corridor(NEEC) และด่านนากระเซ็ง ไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเบื้องต้นจะพยายามเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมก่อนและใช้การท่องเที่ยวเป็นตัวนำ จากนั้นจึงค่อยขยายความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจและการลงทุนต่อ
“ตอนนี้เพิ่งเริ่มประชุมจับมือกันในส่วน 2 จังหวัดไปก่อน หลังตั้งคณะทำงานแล้วก็จะเชื่อมโยงไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยในส่วนไหนเชื่อมได้ก็จะเชื่อมโยงไปก่อน เพราะทางเลยเองปัจจุบันก็มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับทาง สปป.ลาวอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นไซยะบุรีและหลวงพระบาง ส่วนเวียดนามกับจีนนั้นก็คงจะเชื่อมโยงในโอกาสต่อไปเช่นกัน” นายพิบูลย์กล่าวและว่า ที่ผ่านมาทั้งเพชรบูรณ์และเลยต่างก็มีความรู้สึกหรือหัวอกเดียวกัน โดยถูกมองเป็นติ่งในภูมิภาคหรือในกลุ่มจังหวัด ในขณะที่เพชรบูรณ์เองจะเป็นภาคเหนือก็ไม่เชิงภาคอีสานก็ไม่ใช่ ฉะนั้น ในการจับมือของ 2 จังหวัดซึ่งต่างก็มีศักยภาพเชื่อว่า จะเป็นการเพิ่มช่องทางโอกาสทางด้านการค้าการลงทุน การท่องเที่ยว และวัฒนธรรมในภายภาคหน้ามากขึ้น
