ด.ช. 8 ขวบพิการแขนลีบ-ปากแหว่งไม่ท้อชีวิต เป็นมัคคุเทศก์น้อย หารายได้จุนเจือครอบครัว-รักษาตัว

วันที่ 17 มีนาคม 2560 นายไมตรี อินทุสุต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมศูนย์ปฏิบัติการ พม. (ศปก.พม.) เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขปัญหาและการป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้บริหารและผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุมว่า สืบเนื่องจากกรณีเด็กชายอายุ 8 ขวบ พิการแขนขาไม่เท่ากัน และเป็นโรคปากแหว่งเพดานโหว่ แต่สู้ชีวิต ต้องออกไปทำงานรับจ้างเป็นมัคคุเทศก์น้อยตามแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อหาเงินเป็นค่ารักษาตัวเองและช่วยเหลือจุนเจือครอบครัวนั้น ตนขอชื่นชมเด็กชายคนดังกล่าวที่มีจิตใจเข้มแข็ง มีความกตัญญู ขยันหมั่นเพียร และมีความมุมานะพยายามในการช่วยเหลือตนเอง และใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการหารายได้เพื่อช่วยเหลือครอบครัว ก่อให้เกิดเป็นส่วนหนึ่งของพลังทางสังคม โดยไม่ได้นำความพิการมาเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต นับว่าเป็นแบบอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชนในสังคมโดยเฉพาะผู้พิการ

ทั้งนี้ ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอุบลราชธานี (พมจ.อุบลราชธานี) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่สังกัด พม.ลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจของ พม. พร้อมมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นและอุปกรณ์การเรียน รวมทั้งประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ช่วยเหลือดูแลในเรื่องการตรวจร่างกายและรักษาพยาบาลของเด็กชายดังกล่าวในระยะยาว การศึกษาเล่าเรียนของเด็กอย่างต่อเนื่อง และบริการสิทธิสวัสดิการที่เหมาะสมตามกฎหมาย เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเด็กชายดังกล่าวคือ เด็กชายอนุวัฒน์ หลีน้อย หรือน้องฟ็อก กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.2 โรงเรียนดำรงวิทยา อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี ซึ่งมาเป็นไกด์นำเที่ยวบริเวณแก่งหินงาม–หาดชมดาว ต.นาตาล อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี พร้อมกับพี่ชายคือ เด็กชายภูเบศวร์ หลีน้อย อายุ 12 ปี ซึ่งต้องการหารายได้พิเศษช่วยเหลือแม่และตนเองที่จะต้องเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลปากน้ำ อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ

โดยจากคำบอกเล่าของ นางมณีออน หลีน้อย อายุ 39 ปี มารดาของเด็กชายอนุวัฒน์ว่าน้องฟ็อกมีความผิดปกติด้านร่างกายมาแต่กำเนิด คือทั้งขาและแขนฝั่งด้านซ้ายจะเล็กกว่าฝั่งด้านขวา ทำให้ไม่สามารถเดินได้เท่ากัน ส่วนแขนซ้ายบางครั้งก็อ่อนแรง แพทย์ก็ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นโรคอะไร และสามารถรักษาได้หรือไม่ จึงต้องปล่อยไป ส่วนอาการปากแหว่งเพดานโหว่ซึ่งต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ก็โชคดีที่น้องได้เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงได้รับการช่วยเหลือในการรักษาฟรี

Advertisement

แต่ก็มีค่าใช้จ่ายในส่วนการเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลในจังหวัดสมุทรปราการอย่างต่อเนื่อง จึงต้องมีภาระในการเดินทางอยู่เป็นประจำ ส่วนตนมีอาชีพขายน้ำที่สถานที่ท่องเที่ยวแก่งหินงาม–หาดชมดาวให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งรายได้วันหนึ่งก็ไม่แน่นอน ส่วนสามีของตนไปรับจ้างใช้แรงงานที่จังหวัดสมุทรปราการ นานๆ จึงจะมีโอกาสได้กลับบ้าน ตอนนี้ตนมีลูกทั้งหมด 4 คน คนโตและน้องฟ็อกซึ่งเติบโตมากับแก่งหินงามอยู่แล้ว และทางชุมชนได้รวมตัวกันเพื่อจัดให้มีไกด์นำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์น้อย ตนจึงให้น้องฟ็อกและพี่ชายมาสมัครเป็นมัคคุเทศก์น้อย เพื่อหารายได้ช่วยเหลืออีกทางหนึ่ง

ด้านเด็กชายภูเบศวร์ หลีน้อย พี่ชาย ก็เล่าว่า ตนและน้องชายมาเป็นมัคคุเทศก์น้อยประมาณ 6 เดือนแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะมาทำงานในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ช่วงนี้เปิดภาคเรียนแล้ว จึงได้มาหาเงินช่วยแม่ทุกวันกับน้องชายเพื่อจะลดภาระของแม่และพ่อ และช่วยหาเงินไปรักษาน้องฟ็อกอีกทางด้วย วันหนึ่งๆ ตนและน้องชายรวมเงินกันได้ประมาณวันละ 200 บาท หากวันไหนนักท่องเที่ยวใจดีก็อาจจะได้ถึงวันละ 500 บาท ซึ่งหน้าที่ของมัคคุเทศก์น้อยที่แก่งหินงาม ก็จะพานักท่องเที่ยวเดินดูตามจุดถ่ายรูปที่สำคัญ เช่น หน้าผาวัดใจ และประติมากรรมแม่น้ำโขงที่บริเวณแก่ง ซึ่งระยะทางทั้งหมดหากเดินทางไป-กลับก็ประมาณ 2 กิโลเมตรต่อ 1 รอบ ซึ่งค่าจ้างก็ขึ้นอยู่กับนักท่องเที่ยว บางครั้งก็ได้ครั้งละ 100-200 บาทต่อรอบ

 

Advertisement

 

อนุวัฒน์ หลีน้อย หรือน้องฟ็อก
อนุวัฒน์ หลีน้อย หรือน้องฟ็อก

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image