เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์ ที่ห้องพิจารณา 802 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดสืบพยานโจทก์ คดีที่พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายวิชา บุญลือลักษณ์ จำเลย ฐานกระทำการอันทารุณกรรมสัตว์ ฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกข์เวทนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.2490
คำฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2558 เวลากลางคืน จำเลยมีอาวุธปืน ไม่ทราบชนิดและขนาด ไม่มีหมายเลขทะเบียน และกระสุนปืนไม่ทราบชนิดและขนาดอีกหลายนัด ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกอาวุธดังกล่าวติดตัวไปตามถนนสาธารณะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว โดยไม่ได้รับอนุญาต และใช้อาวุธปืนยิงสุนัขสีขาวดำ หลายนัด กระสุนปืนถูกบริเวณหัวไหล่ทั้งสองข้าง เป็นเหตุให้ขาทั้ง 4 ข้างของสุนัขเป็นอัมพาต มีเลือดไหลออกในปอดจำนวนมาก และถึงแก่ความตาย เหตุเกิดบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าอิมพีเรียล สาขาลาดพร้าว เขตวังทองหลาง
โดยวันนี้นายวิชา พร้อมทนายความจำเลย เดินทางมาศาล ต่อมาอัยการโจทก์นำพยานเข้าเบิกความในช่วงเช้า 2 ปาก มี น.ส.ภณิตา สุนทรัตต์ อายุ 47 ปี ในฐานะผู้เข้าแจ้งความ และนางรำพึง ดวงดี อายุ 53 ปี ผู้ดูแลสุนัข ทั้งคู่เบิกความสอดคล้องกันสรุปว่า สุนัขตัวดังกล่าว น.ส.ภณิตา เรียกว่าขาวด่างเป็นสุนัขจรจัดที่คนอาศัยบริเวณดังกล่าวช่วยกันเลี้ยงดูให้อาหารตั้งแต่ยังเด็ก นางรำพึงเป็นผู้ดูแลสุนัขและเป็นพนักงานทำความสะอาด กทม.บริเวณที่เกิดเหตุ โดยน.ส.ภณิตาจะเป็นคนออกเงินชื้ออาหาร และยารักษาโรค ให้กับนางรำพึง เพื่อนำไปดูแลสุนัข ต่อมาน.ส.ภณิตา ทราบจากนางรำพึง ว่าเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2558 เวลา 00.40 น. สุนัขถูกยิง และมีคนขายของบริเวณดังกล่าวพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ และตายเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2558
พยานเบิกความต่อว่า จากนั้นน.ส.ภณิตา ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบรถยนต์ขับมาบริเวณที่เกิดเหตุ มีสุนัข 3-4 ตัว วิ่งไล่รถ และรถพยายามขับชนสุนัข พร้อมกับชักอาวุธปืนออกมายิงสุนัขขาวด่าง ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ต่อมาวันที่ 18 มกราคม 2558 น.ส.ภณิตา ไปจอดรถยนต์ใกล้ที่เกิดเหตุ และเมื่อกลับมาถึงรถ พบกระดาษติดไว้หน้ากระจกรถ เขียนหมายเลขทะเบียนรถยนต์ ซึ่งน.ส.ภณิตา คาดว่าเป็นหมายเลขทะเบียนรถยนต์ของคนก่อเหตุ จึงนำหลักฐานดังกล่าวไปมอบให้กับพนักงานสอบสวน
ต่อมาช่วงบ่าย ศาลสืบพยานโจทก์ปากสุดท้ายเป็นพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย สรุปถึงขั้นตอนการดำเนินคดีตั้งแต่การรับแจ้งความของผู้เสียหาย ตลอดจนตรวจสอบที่เกิดเหตุ ภาพวงจรปิด จนกระทั่งจำเลยเข้ามอบตัวต่อสู้คดี ขณะที่จำเลยรับสารภาพในข้อหากระทำการอันทารุณกรรมสัตว์ ฆ่าสัตว์โดยให้ได้รับทุกข์เวทนา กับพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ข้อต่อสู้ในประเด็นมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ศาลอนุญาตให้จำเลยนำพยานเข้าเบิกความ 2 ปาก ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ เวลา 09.00 น.