ราชทัณฑ์ แจงคุมเข้ม เสอจื้อเจียง เจ้าพ่อชเวก๊กโก เหตุกระทำผิดวินัย ยันยึดตามกม.-ระเบียบ
เมื่อวันที่ 28 มกราคม กรมราชทัณฑ์ ออกเอกสารชี้แจงกรณี นายเสอจื้อเจียง ส่งจดหมายถึงตำรวจสากลว่าถูกทารุณกรรมในเรือนจำที่ไทย โดยระบุว่า
ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวกรณี นายแส หรือ เสอ จิ้นเจียง หรือจื้อเจียง ผู้ต้องขังชาวจีนซึ่งถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำไทยถูกขังเดี่ยว ถูกล่ามโซ่ ถูกปฏิเสธไม่ให้ได้รับการรักษาพยาบาล ถูกปฏิบัติแบบไร้มนุษยธรรมเป็นพิเศษ และตกเป็นเหยื่อของการละเมิดสิทธิมนุษยชน นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า ได้รับรายงานจากเรือนจำกลางคลองเปรมว่า ได้รับย้าย นายแส หรือ เสอ จิ้นเจียง หรือ จื้อเจียง สัญชาติจีนและกัมพูชา ความผิดฐาน เปิดบ่อนคาสิโน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังที่มีพฤติกรรมและพฤติการณ์ไม่น่าไว้วางใจและมีอิทธิพลทางการเงินสูง ตลอดจนอยู่ในระหว่างรอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน
โดยตั้งแต่วันที่รับตัวเข้ามาควบคุมเรือนจำฯ ได้ถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับโดยเฉพาะการดำเนินงานภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs) เพื่อให้สามารถควบคุมดูแลผู้ต้องขังชาวต่างชาติให้ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนและข้อกำหนดของสหประขาชาติสำหรับปฏิบัติต่อผู้ต้องขัง (Standard Minimum Rules for the Treatment of Prisoners / SMR)
แต่เนื่องจาก นายแส ได้มีพฤติการณ์กระทำผิดวินัยเรือนจำ จึงต้องมีมาตรการควบคุมที่เข้มงวดขึ้น เพื่อให้อยู่ในระเบียบวินัย ตลอดจนข้อบังคับต่างๆ ของเรือนจำ ปัจจุบัน นายแส ได้ดำเนินชีวิตอยู่ในเรือนจำเป็นปกติ เมื่อเจ็บป่วยได้รับการรักษาจากแพทย์ รวมทั้งได้เข้ารับโปรแกรมการฟื้นฟูสภาพร่างกายอย่างสม่ำเสมอ และ นายแสฯ ได้รับการติดต่อสื่อสารกับทนายความเป็นประจำ มีการรับ-ส่งจดหมายผ่านระบบออนไลน์และสามารถเขียนจดหมายได้ตามสิทธิ การเผยแพร่ข่าวกรณีของนายแส จึงไม่เป็นความจริง
กรมราชทัณฑ์ได้ยึดหลักการควบคุมดูแลผู้ต้องขังทุกราย ภายใต้มาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการควบคุมผู้ต้องขัง (SOPs) รวมถึงยึดถือปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ การปฏิบัติต่อผู้ต้องขังให้สอดคล้องกับมาตรฐานงานราชทัณฑ์ระดับสากล และข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังขององค์การสหประชาชาติ ให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนโดยเคร่งครัด จึงขอชี้แจงเพื่อทราบโดยทั่วกัน