ตร.บุกทลายแหล่งบุหรี่ไฟฟ้า รวบ 3 ผู้ต้องหา แจ้งข้อหาหนัก ยึดของกลางน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้ากว่า 500 ลิตร
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พ.ต.อ.สุทธิศักดิ์ วันที พ.ต.อ.ชนะวรศิณธุ์ ศุภพนารักษ์ รอง ผบก.น.3 พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี, พ.ต.อ.สุทธิพร สุกก่ำ รรท.ผกก.สส.บก.น.3 สั่งการให้ พ.ต.ท.ชำนาญ โพธิ์น้อย สว.กก.สส.บก.น.3, พ.ต.ต.สมมาตร คงทอง สว.ฝอ.บก.น.3/ชปส.บก.น.3 พร้อมกำลังปิดล้อมตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้าน ซ.ร่มเกล้า 11 แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กทม.หลังสืบสวน ทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าจึงนำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี
เข้าตรวจค้นพบ น.ส.นภัค หรือเจ๊นก (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นายหยูหลง (สวนนามสกุล) อายุ 36 ปี สัญชาติจีน พร้อมของกลาง 1.บุหรี่ไฟฟ้า 65 ตัว 2.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ขนาด 30ml 1,930 ขวด 3.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า ขนาด 60ml 1,875 ขวด และ 4.น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า 36 ถัง น้ำหนักประมาณ 578 ลิตร โดยกล่าวหาว่า 1.ร่วมกันซ่อนเร้น หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (บุหรี่ไฟฟ้า, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) (ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มาตรา 246) และบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
จากนั้น ตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แยก 32 ซอยรามคำแหง 174 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. หลังสืบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวลักลอบจำหน่ายสินค้าไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก มอก. และสินค้าหนีภาษี ตรวจสอบพบปลั๊กไฟแบบตั้งเวลาเปิดปิด 1,889 ชิ้น พาวเวอร์แบงก์ 6,164 ชิ้น วางอยู่ภายในบ้านและในห้องนอน นายธนกฤต (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงจับกุม กล่าวหาว่า “ซ่อนเร้น หรือรับไว้ด้วยประการใด ซึ่งของอันตนรู้ว่าเป็นของที่ยังมิได้ผ่านพิธีศุลกากร ซึ่งเป็นสินค้าที่ต้องห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร”
จากนั้นตรวจค้นบ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านหรูแห่งหนึ่ง ซอยรามคำแหง 174 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม.ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใช้เก็บซุกซ่อนสินค้าที่มีเครื่องหมายการค้าปลอมและสินค้าที่ไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก มอก.ผลการตรวจค้นพบของกลางอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย จำนวนหลากหลายแบบบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษสีน้ำตาลวางอยู่บริเวณลานจอดรถภายในบ้านหลังดังกล่าว
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นอุปกรณ์เซ็กซ์ทอย ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจยึดของกลางดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี เพื่อติดตามเจ้าที่แท้จริงของมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป