ตาชั่งพันดาว : จับตาแต่งตั้งรองผบก.มาถึงสว. ญาติสนิท ศิษย์ข้างเคียง เสบียงหลังบ้าน

ผู้เขียน	ไตร27

⦁…“การแก้แค้นที่ดีที่สุด คือการประสบความสำเร็จให้มากกว่า” วาทะ แฟรงก์ ซินาตรา ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในศตวรรษที่ 20

⦁…เป็นปลื้ม ผลจากการเยือนจีน ระหว่าง 5-8 ก.พ. ของ นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร นำคณะ 8 รมต. กระชับความสัมพันธ์ 50 ปีสองประเทศขับเคลื่อนความร่วมมือทุกมิติ โดยเฉพาะจับมือกันปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังจากตัดไฟ ตัดน้ำมัน 5 จุด ในเมียนมา ตั้งแต่ 9โมงเช้า 5 กุมภาพันธ์ ล้วนเป็น “ฐานโอเปอร์ชั่น” จีนเทาโทรมาหลอกคนไทย ทักษิณ ชินวัตร คุณพ่อนายกฯ ฮึ่ม จัดการตึก 25 ชั้น ปอยเปต บอกรู้กันดีอยู่ว่าใครเป็นเจ้าของ ประกาศจะถอนสัญชาติไทยด้วย อดีตนายกฯพูดที่เขตบางรักสะเทือน ถึง“เสี่ย ต.” ที่ชายแดน เป็นมุดหมายโปรแกรม นายกฯอิ๊งค์เยือนกัมพูชา เพื่อแก้ปัญหาต่อไป

⦁…ฟันไม่เลี้ยง บิ๊กแรก พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 กำชับ 8 จังหวัดในภาค 2 ตรวจสอบสืบสวนอย่างเข้ม อย่าปล่อยให้พื้นที่มีบ่อนพนันเด็ดขาด คาดโทษผกก.ต้องรับผิดชอบ เชือดไก่โชว์ ถ้าละเลยโดนเด้งแบบ พ.ต.อ.โชติ ละม่อม ผกก.สภ.องครักษ์ นครนายก ไปช่วยราชการศปก.ภ.2 โดยตั้งกรรมการสอบ หลังเหตุหน่วยนอก ชุดปฏิบัติการพิเศษ กรมการปกครอง ร่วมฝ่ายปกครองจังหวัดนครนายก นำกำลังจู่โจ่ม ตรวจค้นอาคารลักลอบทำเป็นบ่อนกลางทุ่งนา อ.องครักษ์ เปิดๆปิดๆ เย้ยกฎหมายมานานเกือบปีแล้ว แต่ไม่มีใครกล้ายุ่ง บางวันโจ่งแจ้งแบบเซเว่น-อีเลฟเว่น 24ชั่วโมงเลย จนท.บุกพังรั้วสังกะสีเข้าไปเจอ 218 ชีวิตทั้งหญิงชาย กำลังเมามันผีพนันเข้าสิงทั้งเสือมังกร, ไฮโล ได้ยึดชิปแทนเงินสดกว่า2 ล้าน ถูกดำเนินคดีทั่วหน้า

⦁…รอดตัวไป หลายคนลุ้น ผู้การนครนายก โดนหางเลขไปด้วยหรือไม่ เพราะบิ๊กต่าย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เคยให้นโยบายหาก นักพนันเกิน 150 คน “ผู้บังคับการ” ต้องรับผิดชอบ ปรากฎ บิ๊กต่าย ได้พูดคุย พล.ต.ท.ยิ่งยศ ว่า พ.ต.อ.ปราโมทย์ งามประดิษฐ์ รรท.ผบก.ภ.จว.นครนายก เพิ่งย้ายไป 2 สัปดาห์ ต้องให้ความเป็นธรรม แต่ได้สั่งการให้ตรวจสอบขยายผล ถ้าพบว่า “รรท.ผู้การ” มีเอี่ยว หรือ ปล่อยปละเลย ต้องรับผิดชอบโดยไม่มีละเว้นแน่นอน

⦁…ฝุ่นตลบ แต่ละกองบัญชาการกำลังสาละวนทำบัญชี “รองผบก.มาถึงสว. “ ขีดเส้นสิ้นก.พ.ประกาศคำสั่งพร้อมกัน มีผลบังคับ 3 มีนาคม แล้วเดินทางรับตำแหน่งใหม่ภายใน 7 มีนาคม เกณฑ์เรียงตามอาวุโสร้อยละ 33%ของตำแหน่งว่าง ที่เหลือพิจารณาโดยคำนึงอาวุโส ความรู้ความสามารถประกอบกัน ใครที่ข่าวว่าเอี่ยวยาเสพติด อาชญากรรมออนไลน์ อาชญากรรมข้ามชาติ และต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ให้โยกไปอยู่งานที่ไม่ต้องสัมผัสประชาชน แต่เป็นที่รู้กันอยู่ ถึงจะมีพ.ร.บ.ตำรวจ และกฎก.ตร.เป็นกรอบ แต่ไม่วาย คนที่ได้อัพเก้าอี้ ว่ากันว่า มักอยู่ในกลุ่ม “ญาติสนิท ศิษย์ข้างเคียง เสบียงหลังบ้าน”

⦁…กฎหมายต้องศักดิ์สิทธิ์ “น.1” พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งเฉียบทุกสน. ‘คนข้ามทางม้าลายต้องปลอดภัย’ หลังเกิดเหตุชายควบจักรยานยนต์เมินไฟแดง ชนนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ศีรษะแตก จุดเดิมหน้าร.พ.สถาบันไตภูมิราชนครินทร์ ถนนพญาไท ที่ “หมอกระต่าย” ถูกบิ๊กไบก์ชนเสียชีวิตเมื่อ 3 ปีก่อน อีกกรณีคลิปเผยแพร่โซเชี่ยลฯ หนุ่มควบรถฝ่าไฟแดงหัวร้อน หวิดชนคนเดินข้ามทางม้าลาย ต่อมาเข้าพบพงส.สน.ลุมพินี โดนแจ้งข้อหายิบตามความผิด พร้อมยึดรถของกลาง วันรุ่งขึ้นส่งสำนวนอัยการฟ้องศาลทันที พิพากษาสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 3,000 บาท โทษจำรอ2 ปี คุมประพฤติรายงานตัว 3 เดือน/ครั้ง ภายใน 1 ปี แล้วริบจักรยานยนต์

⦁…อย่าเมิน ตร.ประกาศให้ทราบทั่วกันว่า รูปแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร และการกำหนด อัตราค่าปรับในปัจจุบัน ยังมีผลใช้บังคับตามกฎหมายต่อไปเป็นระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ดังนั้น ใครทำผิดกฎหมายจราจร ไม่ว่าจะฝ่าฝืนสัญญาณไฟ ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ไม่สวมหมวกนิรภัย และข้อหาอื่นๆ อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทาง พ.ศ.2522 และเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจร โดยถูกเจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งตามความผิด ยังคงถือเป็นผู้กระทำผิดกฎจราจร และต้องรับโทษปรับอยู่

⦁…รุกคืบ “สวนพลู1” พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.สั่ง พล.ต.ต.ภานพ วรธนัชชากุล รรท.ผบก.สส.สตม. ร่วมกับตม.ชลบุรี รวบ “คิม ยองซู” สัญชาติเกาหลีใต้ ได้ที่คอนโดฯหรูพัทยา โอเวอร์สเตย์ 112 วันแล้ว มีหมายจับทั้งประเทศมาตุภูมิ และอินเตอร์โพล เป็นอาชญากรระดับตัวเป้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีฐานที่มั่นในจีน ฉ้อโกงเหยื่อไม่ต่ำกว่า 140 ล้านบาท หลังโดนกวาดล้างหนีกบดานไทยตรวจสอบพบว่าอยู่เกินกำหนด นอกจากนี้ยังเป็นตัวการสำคัญส่งยาเสพติดจากไทยไปโสมขาวด้วย

⦁…ปราบมาเฟีย ผ่านเลือกตั้งอบจ.ทั่วประเทศ 1 ก.พ. เห็นฐานอำนาจ “บ้านใหญ่” และผู้มีอิทธิพลแต่ละจังหวัดชัดว่า เปลี่ยนไปจากอดีต แต่ละบ้านสร้างบารมี พระคุณมากกว่าพระเดช  แต่ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ 12 ธันวาคม 2567 ยิงถล่ม ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ สจ.โต้ง อย่างอุกอาจเสียชีวิต ในบ้าน“โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรีขณะนั้น รัฐบาลต้องการกวาดล้างทั้งมาเฟีย และมือปืนรับจ้าง จึงเป็นที่มารัฐบาลสั่งให้ตร. ตั้งศูนย์ปราบผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง และผู้ร้ายสำคัญ “บิ๊กต่าย” มอบให้ “บิ๊กจวบ” พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รองผบ.ตร. ผอ.ศูนย์ ปรากฎว่า จัดพฤติกรรมเข้าข่าย 17 ผู้มีอิทธิพล เบื้องต้นคัดกรองเป้าหมาย รวมทั้งหมด 943 ราย แบ่งเป็น 3 กลุ่ม มือปืน 240 ราย ผู้มีอิทธิพลที่มท.ส่งข้อมูลมา 130 ราย และกองปราบอีก 573 ราย ทั้ง ฮั้วประมูล การบุกรุกที่สาธารณะ แก๊งเงินกู้โหด และ แก๊งอาชญากรรม นำทั้งหมดมาคัดกรองใหม่เหลือเพียง 71 เป้าหมาย เพื่อทวงความสุขและรอยยิ้มให้ประชาชน