ผ่าซากออมสินก่อนสตัฟฟ์มอบ ทช.จัดแสดงเตรียม ช่วยเต่าอีก 23 ตัวเชื่อมีเหรียญในท้อง ระดมทุนซื้อกล้องเอ็นโดรสโคป

เมื่อวันที่ 22 มีนาคม สพ.ญ.นันทริกา ชันซื่อ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคสัตว์น้ำ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงการดำเนินการภายหลังเต่าออมสินตายลง ว่า จากนี้ทีมสัตวแพทย์จะผ่าพิสูจน์เต่าออมสินอย่างละเอียด เพื่อหาค่าโลหะหนักจากการกินเหรียญที่สะสมอยู่ในตับ ไต และอวัยวะภายใน เพื่อนำกลับมาคำนวณเปรียบเทียบกับปริมาณโลหะหนักที่สะสมอยู่ในเลือดของเต่าออมสิน เมื่อได้ผลการวัดค่าโลหะหนักนี้แล้วอย่างชัดเจนแล้ว ก็จะนำผลที่ได้นี้ไปช่วยเหลือเต่าตนุตัวอื่นที่อยู่ร่วมบ่อกับเต่าออมสิน ซึ่งทราบว่าเวลานี้ยังมีอีกหลายตัวรักษาและดูแลอยู่ที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ภาคตะวันออก จ.ระยอง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องเจาะเลือดนำมาตรวจหาค่าโลหะหนัก เพื่อช่วยชีวิตเต่าเหล่านี้ต่อไป โดยจะดำเนินการร่วมกับ น.สพ.วีรพงษ์ เหล่าเวชประสิทธิ์ สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยทรัพยากรฯ

สพ.ญ.นันทริกา กล่าวอีกว่า หลังจากผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดแล้ว จะมีการสตัฟฟ์ซากเต่าออมสิน พร้อมเหรียญที่นำออกมาจากตัวเต่า เพื่อส่งมอบให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรฯ นำไปจัดแสดงเพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเต่าออมสิน และเพื่อเป็นสิ่งเตือนใจและรณรงค์กับประชาชนในเรื่องการโยนเหรียญลงในบ่อหรือกรงสัตว์เพราะความเชื่อผิดๆ โดยได้หารือในการทำงานร่วมกับกับนายปิ่นสักก์ สุรัสวดี ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่ง และป่าชายเลน ทช.ไว้แล้ว จากนี้จะมีการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ และคาดว่าจะส่งมอบเต่าออมสินสตัฟฟ์ให้ ทช.นำไปจัดแสดงได้ในต้นเดือน เมษายนนี้

น.สพ.วีรพงษ์ กล่าวว่า เต่าที่อยู่ในบ่อเดียวกับเต่าออมสิน มีทั้งหมด 20-23 ตัว ส่วนมากเป็นเพศเมีย โดยมีที่มาจากบ่อในสวนสาธารณะเกาะลอย อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีเช่นเดียวกับเต่าออมสิน เวลานี้กำลังหารือกับ สพ.ญ.นันทริกาและทีมสัตวแพทย์ท่านอื่นๆ ว่าจะดำเนินการอย่างไรในการตรวจรักษา เพราะคาดว่าเต่าทุกตัวกลืนเหรียญเข้าไปในท้องเหมือนกัน แต่คงกลืนเข้าไปน้อยกว่าเต่าออมสิน ที่แสดงอาการออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน

ผู้ข่าวรายงาน ว่า ทั้งนี้เฟซบุ๊ก Nantarika chansue ของ สพ.ญ.ได้มีการตั้ง “กองทุนช่วยเหลือชีวิตสัตว์น้ำ” โดยเปิดหมายเลขบัญชีเพื่อขอรับบริจาคเงินเพื่อจัดซื้อกล้องเอ็นโดรสโคป ที่ใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปภายในแล้วนำสิ่งแปลกปลอมออกมา โดยไม่ต้องใช้วิธีการผ่าตัด ซึ่งมีประชาชนสนใจบริจาคเงินจำนวนมาก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image