วันที่ 24 มีนาคม 2560 นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจจุดอ่อนน้ำท่วมบริเวณหน้าตลาดประชานิเวศน์ 1 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร ว่า เดิมบริเวณนี้เป็นจุดอ่อนน้ำท่วม และเมื่อฝนตกทำให้เกิดน้ำรอระบายอยู่เสมอ เนื่องจากสามารถระบายน้ำได้เพียงทางเดียวคือคลองเปรมประชากร ทั้งนี้ เมื่อ 4-5 ปีก่อน สำนักการระบายน้ำ กทม.ได้ทำบ่อสูบน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำสามารถรับได้ประมาณ 3,000 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) ลงสู่คลองเปรมประชากร และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ ในปีนี้สำนักการระบายน้ำได้เพิ่มบ่อสูบน้ำอีก 3 จุด พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำอีก 3 ตัวที่สามารถรองรับน้ำได้เพิ่มขึ้นเป็น 5,000 ลบ.ม. บริเวณวัดเสมียนนารี เพื่อเร่งระบายน้ำสู่คลองเปรมประชากรเช่นเดิม
นายจักกพันธุ์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้พัฒนาพื้นที่บึงประชานิเวศน์ ซึ่งเป็นบึงที่มีขนาด 7 ไร่ ให้เป็นพื้นที่แก้มลิงสามารถรองรับน้ำอีกได้ประมาณ 50,400 ลบ.ม. แม้ปัจจุบันได้ระบายน้ำสู่เปรมประชากรบ้างแล้ว แต่ก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร เนื่องจากบึงดังกล่าวเป็นระบบปิดอยู่ คือน้ำไม่สามารถหมุนเวียนได้ แต่หากจะให้คลองเป็นระบบเปิด ต้องให้เจ้าหน้าที่มาขุดลอกคูคลองเพื่อเชื่อมคลองเล็กคลองน้อยเหล่านี้เข้าด้วยกัน ก็จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น
“ในขณะเดียวกันในส่วนของบึงประชานิเวศน์ ต้องให้เจ้าหน้าที่เข้าไปคุยกับเอกชนก่อน ซึ่งมีหลายเจ้าของว่า กทม.จะสามารถเข้าไปขุดลอกคูคลองเพื่อเชื่อมคลองให้เกิดประสิทธิภาพในการระบายน้ำได้อย่างไร ซึ่งก่อนหน้าฝนนี้ก็จะเร่งดำเนินการให้รวดเร็วที่สุดก่อนช่วงฤดูฝนนี้” นายจักกพันธุ์กล่าว
