ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) รวบตัวการใหญ่หลอกชาวบ้านเปิดบัญชีม้า หลังรับออเดอร์จากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการ โดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม, พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เอกสิทธิ์ ปานสีทา ผกก.4 บก.ป., พ.ต.ท.ศุภกร ตังคะประเสริฐ, พ.ต.ท.เจษฎา แก้วจาเครือ, พ.ต.ท.อรรถวิทย์ สุขทัศน์, พ.ต.ท.เอนก บุญตา รอง ผกก.4 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ท.ปิยะพร เรียนสุทธ์ สว.กก.4 บก.ป., ด.ต.เกียรติเฉลิม รักษ์งาม, ด.ต.สิทธิโชค สีแดง, ส.ต.อ.อธิเบศร์ พรหมสิทธิ์ ผบ.หมู่ กก.4 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายสุรเชษฐ์ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่ จ.158/2567 ลงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก หรือบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือกิจการที่เกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่น โดยประการที่รู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” โดยจับกุมได้ที่วัดแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี
สืบเนื่องจากช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2567 มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ผู้เสียหายให้การว่า เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ.2566 ผู้ต้องหากับพวกได้ร่วมกันฉ้อโกงผู้เสียหาย โดยปกปิดว่าจะให้กู้เงิน แต่ถูกหลอกให้โอนเงินไป จนสูญเสียเงินไปหลายหมื่นบาท จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินดคีกับผู้ต้องหาจนถึงที่สุด เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนจนพบว่านายสุรเชษฐ์ได้หลบหนีมาอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บ้านกลาง อ.เมืองจ.ปทุมธานี
จากการสืบสวนพบว่านายสุรเชษฐ์จะเดินทางออกไปทำงานช่วงเช้าทุกวัน จึงไปตรวจสอบดู พบนายสุรเชษฐ์ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านบริเวณวัดแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงทำการจับกุมตัวและแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งแจ้งสิทธิให้นายสุรเชษฐ์ทราบ และเชิญตัวมาทำบันทึกที่ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บ้านยางชุม จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
หลังการจับกุมผู้ต้องหาพบว่า ผู้ต้องหาเป็นตัวการใหญ่ในการเปิดบัญชีม้าโดยนำบัญชีเจ้าตัวเกือบ 10 บัญชี ไปขายต่อในราคา 10,000 บาทต่อบัญชี และยังใช้กลอุบายให้ชาวบ้านในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เปิดบัญชีให้อีกจำนวนมาก โดยบัญชีทั้งหมดจะถูกนำไปให้ “ผู้ว่าจ้าง” จากประเทศเพื่อนบ้าน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายหลาย 10 ล้านบาท
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่าเป็นบุคคลตามหมายจับนี้จริง รับสารภาพว่ารับซื้อบัญชีจากชาวบ้านส่งขายให้ชาวกัมพูชา