เมื่อวันที่ 24 มีนาคม นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในวันที่ 25 มีนาคม นี้ ตนได้สั่งการให้นายชีวะภาพ ชีวะธรรม หัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ร่วมกับนายเกียรติศักดิ์ ปรีดา ผู้อำนวยการส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหาร เข้าตรวจสอบบริเวณที่มีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติป่ากะเฉด-เพ-แกลง บริเวณป่าเขายายดา บ้านบ่อหิน หมู่ที่ 14 ต.ตะพง อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อก่อสร้างเคเบิลสลิง ที่นายภิญโญ จันทนาตาล หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รย.2 (บ้านค่าย) ได้ตรวจยึดไว้เมื่อวันที่ 16 มี.ค.2559 สายเคเบิ้ลมีความยาวทั้งหมด 1,691 ม.ความกว้างสายเคเบิ้ลระยะห่าง 4 ม. มีฐานทั้งหมด 15 ฐาน คิดเป็นพื้นที่ป่าถูกบุกรุก 4-0-91 ไร่ ซึ่งเป็นการกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 ขณะนี้คดีอยู่ในชั้นของพนักงานสอบสวน
“ภายหลังที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไปแล้ว ปรากฏว่ายังคงมีการลักลอบนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นโหนสายเคเบิ้ลกันอยู่ โดยจะมียามคอยเฝ้าด้านนอก เมื่อมีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบยามก็จะโทรศัพท์แจ้งให้สตาฟที่นำนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นโหนสายเคเบิ้ลทราบ สตาฟก็จะพานักท่องเที่ยวออกจากพื้นที่ พอเจ้าหน้าที่ตรวจไม่พบและกลับไป สตาฟก็จะนำนักท่องเที่ยวกลับมาเล่นอีก ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ และนักท่องเที่ยวเองก็ไม่ทราบว่าพื้นที่ก่อสร้างเคเบิ้ลสลิงบริเวณนี้เป็นการบุกรุกป่า”นายชลธิศกล่าว
นายชลธิศ กล่าวว่า ทั้งนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาการลับลอบนำนักท่องเที่ยวเข้ามาเล่นโหนสายเคเบิ้ล และแก้ปัญหาผลกระทบต่อชุมชนและพื้นที่ป่า กรมป่าไม้ได้มอบหมายให้นายไพศาล ธนะเพิ่มพูล ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 (ชลบุรี) ใช้อำนาจตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ 2507 ดำเนินการติดป้ายประกาศแจ้งให้เจ้าของกิจการดำเนินการรื้อถอนสายเคเบิ้ลสลิงและฐานต่างๆ ออกไปจากพื้นที่ป่าสงวนฯ ภายใน 30 วัน โดยจะครบกำหนดติดประกาศรื้อถอนภายในวันที่ 20 เมษายน นี้ หากพ้นกำหนดนี้แล้วยังไม่มีการรื้อถอน ทางกรมป่าไม้จะเข้าไปดำเนินการรื้อถอนเอง พร้อมคิดค่ารื้อถอนจากเจ้าของต่อไป
นายชีวะภาพ กล่าวว่า ชุดพยัคฆ์ไพรจะเข้าตรวจสอบพื้นที่เพื่อวางแผนรื้อถอน เมื่อครบกำหนด 30 วัน และเจ้าของไม่ยอมรื้อถอนเอง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาหลังมีการจับกุม 2 ครั้ง ไม่ได้ตัวผู้กระทำผิด แต่มีการไปร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้ขยายผลได้ว่าเจ้าของเป็นชาวรัสเซียที่เปิดบริษัทร่วมกับคนไทย รวมทั้งมีการจ่ายผลประโยชน์ให้กับนักการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่บางคนจึงมีการลักลอบเปิดเรื่อยมา อย่างไรก็ตามในส่วนของการขออนุญาตดำเนินการนั้นเป็นที่สรุปแล้วทั้งในระดับกระทรวงทรัพยากรฯ และกรมป่าไม้ว่าไม่มีการอนุญาตเด็ดขาดและต้องรื้อถอนออกจากพื้นที่ เพราะเป็นกิจกรรมที่อันตรายและบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ นอกจากนั้นยังจะมีการขยายผลดำเนินการไปยังพื้นที่อื่น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบมีการดำเนินการเคเบิ้ลสลิงในพื้นที่ป่าสงวนฯ ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยที่ จ.เชียงใหม่ เมื่อไม่นานมานี้มีนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น ตกลงมาเสียชีวิต
เมื่อถามว่าที่ผ่านมาเหตุใดจึงมีการลักลอบเข้าไปก่อสร้างหรือดำเนินการนำทัวร์ในลักษณะเคเบิลสลิงโดยที่เจ้าหน้าที่ไม่เห็นได้ นายชีวะภาพ กล่าวว่า เรื่องนี้ตรวจสอบยากมาก ขนาดแปรภาพถ่ายทางอากาศยังมองไม่เห็น ที่สำคัญพวกนี้จะไม่รับนักท่องเที่ยวคนไทย จะรับแต่ชาวต่างชาติโดยคิดราคาหัวละ 2,000-3,000 บาทต่อครั้ง โดยจะมีการทำถนนนำเข้าไปในป่าก่อนขนอุปกรณ์ต่างๆ ค่อยๆ เข้าไปประกอบ
