ศาลยกคำร้อง ไม่ให้ประกัน ขนุน สิรภพ คดี ม.112 อดอาหารประท้วงเข้าสู่วันที่ 14 โพแทสเซียมต่ำ คาดอยู่ได้ถึง 20 วัน ก่อนจะวิกฤต
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยความคืบหน้าภายหลังทนายความยื่นคำร้องขอประกันตัว นายสิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ หรือ ขนุน ที่ถูกคุมขังระหว่างอุทธรณ์ในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ ตามมาตรา 112 โดยการยื่นประกันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 15 แล้ว ล่าสุดวันนี้ (6 มี.ค.) ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยกคำร้องอีกครั้ง
ศูนย์ทนายความฯระบุว่า ศาลอุทธรณ์มีคำสั่ง “ยกคำร้อง” การประกันตัว ระบุพิเคราะห์ความหนักเบาแห่งข้อหา พฤติการณ์แห่งคดี และโทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลยที่ 1 ประกอบกับศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาเคยมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในระหว่างอุทธรณ์อันเนื่องจากเกรงว่าจำเลยที่ 1 จะหลบหนีมาแล้วหลายครั้ง
ส่วนที่จำเลยที่ 1 อ้างว่าเจ็บป่วยนั้น กรมราชทัณฑ์สามารถดูแลจัดการให้ได้ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 55 และตามพฤติการณ์ยังไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม จึงไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 ในระหว่างอุทธรณ์ ให้ยกคำร้อง
วันนี้เป็นวันที่ 14 แล้ว ที่ขนุนอดอาหารประท้วงในเรือนจำ
สำหรับการอดอาหารของนายสิรภพนั้น ศูนย์ทนายความฯเปิดเผยว่า ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ทนายเข้าเยี่ยมขนุนวันนี้ ได้รับการแจ้งจากแพทย์ว่า ระดับโพแทสเซียมต่ำอยู่ที่ 3.5 โดยในวันพรุ่งนี้เช้าจะเริ่มรับวิตามินหนึ่งและธาตุเหล็กเพิ่ม และยอมรับสารอาหารที่โรงพยาบาลให้แล้ว
ล่าสุด ขนุนเล่าว่าหมอมาตรวจค่อนข้างตกใจที่เขาอดมา 14 วัน แต่ร่างกายยังไม่ขาดสารอาหาร เขาคิดว่าเป็นเพราะตัวเองออกกำลังกาย และสร้างกล้ามเนื้อไว้เยอะพอสมควร ทำให้ร่างกายเขาสามารถทนอยู่ในสภาวะขาดสารอาหารได้นานกว่าคนทั่วไป
ขนุนคาดว่าตัวเองน่าจะอยู่ในสภาพนี้ไปได้ถึงการอดอาหารวันที่ 20 ของการประท้วงก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงวิกฤต
พร้อมกันนี้ ศูนย์ทนายความฯยังเปิดเผยจดหมายที่ขนุนเขียนถึง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี, พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม, สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, สมาชิกวุฒิสภา และ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เข้าพบเพื่อให้ข้อมูลเรื่องสิทธิผู้ต้องขังทางการเมือง ที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์
เนื้อหาระบุว่า เรียน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
เรื่อง สิทธิการปล่อยตัวชั่วคราว และสถานการณ์กระบวนการยุติธรรม
กระผม สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ อายุ 24 ปี ผู้ต้องขังคดีการเมือง นับแต่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาคดี ม.112 นับตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2567 ซึ่งนับแต่วันที่ส่งฟ้องในคดีดังกล่าวในปี 2564 ผ่านมา 3 ปี ผมไม่เคยทำผิดเงื่อนไข และยึดมั่นในกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด
ผมไปรายงานตัวต่อศาล ให้ความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์แห่งศาลเสมอมา แต่สิ่งที่ปรากฏกลับต่างออกไป ภายหลังมีคำพิพากษา ผมใช้สิทธิตามกระบวนการอย่างการขอปล่อยตัวชั่วคราว และขออุทธรณ์คดีต่อ
ตามคดีที่ยังไม่ถึงที่สุดย่อมได้รับสิทธิปล่อยตัวเพื่อดำเนินการต่อในชั้นถัดไป แต่ตลอดเกือบ “1 ปี” ที่ผ่านมา ผมได้ใช้สิทธิขอปล่อยตัวหลายสิบครั้ง แต่ถูกปฏิเสธมาโดยตลอดจนถึงวันนี้ โดยมีเหตุผลเพียงแค่ว่า “เกรงจะหลบหนี” ทั้งที่ผมไม่เคยหลบหนี หรือทำอันใดขัดต่อกระบวนการยุติธรรม
การอดอาหารในครั้งนี้ ผมเพียงต้องการความเป็นธรรมเพื่อสิ่งอันแสนเรียบง่ายอย่างการขอปล่อยตัวชั่วคราว เพื่อออกไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท กับสิ่งแสนเรียบง่ายอย่างการกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัว ผมแค่อยากกลับบ้านไปทำกับข้าวให้ป๊าให้แม่ทาน แต่ 1 ปีมานี้ ผมถูกพรากช่วงเวลาเหล่านี้ไป
ในโอกาสนี้ ผมอยากร้องเรียนต่อกระบวนการยุติธรรมที่ดำเนินอยู่ ไปยังเสาหลักของชาติอย่างฝ่ายบริหาร อันได้แก่ นายกรัฐมนตรี และทวี สอดส่อง รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายนิติบัญญัติ อันได้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และองค์กรอิสระ คือคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพื่อให้หาทางแก้ไขสถานการณ์ที่ดำเนินอยู่
ผมต้องการความเป็นธรรม..
หากท่านหรือองค์กรใดสะดวกรับฟังข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนถึงช่วงสุดท้ายของลมหายใจของผม สามารถเข้าพบผมได้ทุกเมื่อที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผมพร้อมที่จะให้ข้อมูล เพื่อความเป็นธรรม ซึ่งไม่ใช่เพียงปัญหาของผม แต่เพื่อให้สังคมก้าวต่อไปตามคำมั่นที่รัฐบาลให้ไว้ถึงสังคมที่ปรองดอง ขอให้ท่านตอบรับโดยเร็ววัน
ด้วยความเคารพถึงทุกท่าน
สิรภพ พุ่มพึ่งพุทธ
