รองผบ.ตร.แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้า 35,600 ชิ้น พร้อมอุปกรณ์ที่ใช้เปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ภายในบ้านพัก ที่ไทรม้า เมืองนนท์ หลังตำรวจกวาดล้างหนัก เร่งขยายผลผู้ร่วมขบวนการ
เมื่อวันที่ 7 มีนาคม พล.ต.อ.ประจวบ วงศ์สุข รอง ผบ.ตร.ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปปง.ตร.) เป็นประธานแถลงผลการตรวจค้นจับกุมแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ไฟฟ้ารายใหญ่โดยมี พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.กิตนิ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน ผบก.ภ.จว.นนทบุรี, พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พล.ต.ต.สรัลพัฒน์ ยศสมบัติ ผบก.กต.2 และผู้เกี่ยวข้องร่วมแถลง ณ บ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี
พล.ต.อ.ประจวบกล่าวว่า ช่วงประมาณต้นเดือนมีนาคม 2568 ได้มีพลเมืองดีเข้ามาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการขนย้ายบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากออกจากร้านที่ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า บริเวณพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่ข้างเคียง ตำรวจเชื่อว่าเป็นการขนออกเพื่อหลบเลี่ยงการถูกตรวจค้นจับกุม ในช่วงที่มีความเข้มข้นในการระดมกวาดล้างการกระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้า จึงได้ทำการสืบสวนติดตามเรื่อยมา จนกระทั่งทราบว่ามีการขนบุหรี่ไฟฟ้านำมาเก็บซุกซ่อนไว้ในบ้านพักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี พบว่าบ้านหลังนี้มีการใช้สิ่งของปกปิดอำพรางรั้วไว้อย่างมิดชิด จากนั้นตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายค้นต่อศาลจังหวัดนนทบุรี และศาลได้อนุมัติหมายค้น
พล.ต.อ.ประจวบกล่าวว่า ล่าสุดวันเดียวกันนี้ตำรวจได้สนธิกำลังกันเข้าทำการตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว ผลการตรวจค้นพบของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนหลายยี่ห้อคละกันประมาณ 35,600 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 1 ล้านบาท และยังตรวจพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการเปิดร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอีกจำนวนหนึ่ง การปฏิบัติการในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 2 ราย แจ้งข้อหา “ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาสำหรับเติมบุหรี่ไฟฟ้า)” ตามคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ 9/2558 และ “ซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำ หรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นสิ่งต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร” ตามมาตรา 256 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560
เบื้องต้นหนึ่งในผู้ต้องหาให้การว่าเป็นเจ้าของร้านจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร และรับคำสั่งมาจากผู้สั่งการให้ทำการเก็บรักษาบุหรี่ไฟฟ้าของกลางไว้ จากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะได้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่องไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นมารับโทษตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.อ.ประจวบกล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าในปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา พื้นที่ใกล้โรงเรียนหรือสถานศึกษา รวมถึงสถานบริการ สถานประกอบการ และพื้นที่สาธารณะในหลายพื้นที่ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายของผู้ใช้บุหรี่ไฟฟ้าเอง หรือผู้อื่น สร้างความเดือดร้อน รำคาญแก่ประชาชนใกล้เคียง รัฐบาล โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าว จึงกำหนดนโยบายให้มีการระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าในทุกมิติ ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วย ระดมกำลังกวาดล้างจับกุมในทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่องและเคร่งครัด และติดตามการขับเคลื่อนให้มีผลการปฏิบัติในทุกมิติอย่างเป็นรูปธรรม