เมื่อวันที่ 27 มีนาคม คณะกรรมการวัดถ้ำโพธิสัตว์ อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เดินทางมายัง “มติชน” เพื่อร้องเรียนกรณีมีบริษัทเอกชน 2 รายขอทำการระเบิดหินภูเขาใกล้กับถ้ำพระโพธิสัตว์ ตามที่เคยเป็นข่าวในช่วงเดือนกันยายน 2559 เนื่องจากห่วงผลกระทบต่อภาพสลักยุคทวารวดีในถ้ำ อายุถึง 1,000-1,200 ปีมาแล้ว รายหนึ่งเป็นบริษัทปูนชื่อดัง จะขอระเบิดหินห่างจากถ้ำพระโพธิสัตว์ประมาณ 2 กิโลเมตร และอีกบริษัทหนึ่งจะขอระเบิดหินห่างจากถ้ำพระโพธิสัตว์ประมาณ 280 เมตร ล่าสุด เมื่อเดือนมกราคม 2560 กระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า บริษัทฯ ดังกล่าวได้ประทานบัตรทำเหมืองหินมากว่า 10 ปีแล้วและยินดีที่จะทำแนวป้องกัน (บัฟเฟอร์โซน) นั้น
คณะกรรมการวัด 2 ราย ซึ่งเข้าร้องเรียน ระบุว่ากลุ่มของตน ไม่เชื่อว่าแนวป้องกันดังกล่าว จะได้ผล และเป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราวเท่านั้น อีกทั้งก่อนหน้าที่ตามที่มีหน่วยงานบางแห่งให้ข้อมูลต่อสื่อว่า การระเบิดหินในอดีตไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆนั้น แม้จะยังไม่กระทบกระเทือนภาพสลัก แต่ทางวัดและชุมชนก็ได้รับมลภาวะทางเสียงและฝุ่นละออง กระทั่งมีการแก้ปัญหาแล้วในภายหลัง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่ามีฝูงลิงมาก่อกวนในวัด เชื่อว่ามีสาเหตุมาจากการไปรบกวนที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ทำให้สัตว์ป่าต้องลงมาอยู่ในวัดและชุมชน อีกทั้งมีความหวาดกลัวเสียงระเบิด จึงมาอาศัยในวัด โดยสร้างความเสียหายหลายอย่าง เช่น ดึงขอบยางรถยนต์ แย่งอาหาร รวมถึงกัดคน แม้แต่เจ้าอาวาสก็เคยโดนกัดเช่นกัน
“ลิงที่กลัวเสียงระเบิด หนีลงมาอยู่ที่วัด สร้างความเดือดร้อนอย่างมาก จนในช่วงกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติมาประชุมร่วมกับพระสงฆ์ที่วัด โดยเสนอแนวทางแก้ปัญหา 3 แนวทาง คือ 1.เคลื่อนย้ายลิงออกจากวัด 2.ทำหมัน 3.ติดตั้งรั้วไฟฟ้า คณะกรรมการวัดและพระสงฆ์มีมติร่วมกันให้เคลื่อนย้ายลิงออกจากวัดจะเหมาะสมที่สุด สำหรับปัญหาต้นเหตุคือ การระเบิดหินนั้น อยากเรียกร้องให้ยกเลิกประทานบัตร เพื่อป้องกันความเสียหายด้านต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว” คณะกรรมการวัดกล่าว