กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรมจัดกิจกรรม โครงการฝึกอบรมเยาวชนชายแดนใต้ เป้าหมายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 24-28 มีนาคม
วางแผนงานสร้างเยาวชนถึง 5 รุ่น สร้างความเข้าใจและการทำความเข้าใจเครือข่ายเยาวชนและประชาชนในพื้นที่เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อลดภาวะเสี่ยงต่างๆ ใช้ชื่อโครงการว่า เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจเคารพสิทธิ เพื่อให้เข้าถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่
เพื่อให้เข้าถึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ร่วมมือกับมูลนิธิ ฟรีดิช เนามัน ประเทศไทย ออกแบบการเข้าใจกฎหมายสิทธิเพื่อให้เยาวชนเรียนรู้กฎหมายได้ง่าย เข้าใจ เข้าถึงง่ายขึ้น ได้ศึกษาเรียนรู้กฎหมายอย่างสนุกสนาน การเรียนรู้ผ่านเกมต่างๆ และการสร้างความมีส่วนร่วมไปด้วยกัน
นอกจากเด็กและเยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ในด้านสิทธิ เสรีภาพ ของตนแล้ว ยังมีการเพิ่มความรู้ อบรมโดยวิทยากรที่เข้าใจบริบทในพื้นที่ การพูดคุยเกี่ยวกับบทบาทและภารกิจกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ มีกิจกรรมปลุกพลังสิทธิมนุษยชนและกิจกรรมการสร้างแรงบันดาลใจด้วยการเชิญวิทยากรในพื้นที่ผู้มีประสบการณ์และการทำงานต่างสาขากันอีก 4 ท่าน คือนักเขียน จิตรกรชื่อดังในพื้นที่ ผู้กำกับกับหนังสั้น และช่างถ่ายภาพข่าวและสารคดีข่าว นางสาวสาธนา ขณะรัตน์ ผู้อำนวยการกรมส่งเสริมสิทธิและเสรีภาพ กล่าวว่า
“การดำเนินงานของเราเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ถึงสิทธิของตัวเองได้อย่างไรตามพื้นฐานสิทธิต่างๆ ให้ประชาชนมีความรู้ในสิทธิของตัวเองและต้องเคารพในสิทธิที่มีต่อผู้อื่นด้วยโดยเราดำเนินงานอยู่ทั่วประเทศ”
สำหรับเป้าหมายใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ต้องการเจาะไปยังกลุ่มเด็กที่เป็นกลุ่มเยาวชน เปรียบเสมือนการสร้างต้นไม้ ปลูกต้นไม้ใหม่ให้ผลิดอกออกผล แตกใบ เติบโตออกไปเป็นต้นไม้ที่ดีและให้ร่มเงาที่ดีต่อไป การลงพื้นที่ทำให้มองเห็นปัญหาต่างๆ ด้านเด็กและเยาวชนมากขึ้น ทำให้เราได้มีความรู้ความเข้าใจ มองเห็นความหวังของเด็กๆ และเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งสามารถเห็นทิศทางในการดำเนินงานให้เป็นทางด้านบวกมากขึ้นจากที่เคยเห็นในภาพลบมานาน เมื่อเราได้พบกับเด็กและเยาวชนและได้แลกเปลี่ยนกับพวกเขาแล้ว ทำให้เห็นความคิดความอ่านของพวกเขาจึงทำให้ ได้เห็นว่าจริงๆ แล้วเราควรพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพสำหรับเด็กและเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้สามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรงได้และเป็นการลงทุนที่ให้ผลในระยะยาวและยั่งยืนได้อย่างแน่นอน”
นอกจากนี้มีการดำเนินงานอีกทางหนึ่ง คือการสร้างวิทยากร สำหรับผู้ที่ดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในด้านสิทธินี้ที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่ว่าจะเป็นทหารและตำรวจ การที่พวกเขาได้ปฏิบัติงานภายใต้ภายใต้กฎหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินนี้จะทำให้พวกเขาปฏิบัติงานได้ดีอย่างไร
เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบและก้าวล้ำในสิทธิของพี่น้องประชาชนและเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบอื่นๆ ให้เกิดการทำงานที่สร้างความเข้าใจได้โดยให้อยู่ในภายใต้กฎหมายเดียวกัน อันจะให้ประชาชนได้รู้สึกเหมือนถูกปกป้องไม่ใช่ถูกละเมิด สิ่งนี้คือการดำเนินงานที่เรากำลังดำเนินการสูตรการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ในปีนี้ค่ะ
ดร.พิมพ์รภัช ดุษฎีอิสริยกุล ผู้จัดการโครงการมูลนิธิ ฟรีดริช เนามัน ประเทศไทย กล่าวว่า ทางเราได้มาส่งเสริมและมองกลุ่มเป้าหมายเยาวชนในเครือข่าย เช่น สภาเยาวชน เยาวชนที่อยู่ในระบบและนอกระบบ ได้มองเห็นถึงพลังและความเปลี่ยนแปลงของพวกเขา ต้องการให้พวกเขาได้มีส่วนร่วมด้วยดี เนื่องจากใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากเรื่องสิทธิแล้วยังต้องคำนึงด้านอื่นๆ ซึ่งมีความแตกต่างในบริบทของทั้ง 3 ศาสนา 3 วัฒนธรรม เราจึงเข้ามาร่วมจัดทำหลักสูตรขึ้นและร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาคประชาสังคม นักวิชาการและทางรัฐ คือกรมคุ้มครองสิทธิ เพื่อให้ความรู้แก่เยาวชนในเรื่องสิทธิมนุษยชน ให้ทัศนคติแก่พวกเขา เปลี่ยนความคิดให้ความรู้ใหม่ๆ เพื่อเยาวชนสามารถนำไปแก้ปัญหาได้ ปรับใช้ในชีวิตได้ และมีมุมมองด้านสิทธิมนุษยชนมากขึ้น
พร้อมทั้งสามารถสะท้อนปัญหาไปยังท้องถิ่นต่างๆ ที่ยังเข้าไม่ถึง ให้เยาวชนไปกระจายข่าว และประชาสัมพันธ์สำหรับคนในท้องถิ่นของตัวเองต่อไป สำหรับในอนาคตเยาวชนต่างๆ เหล่านี้สามารถเป็นกระบอกเสียงให้กับชุมชนในพื้นที่ของตัวเองได้สามารถส่งเสริมในด้านสิทธิเสรีภาพมากขึ้นและที่สำคัญสามารถปกป้องสิทธิและเรียกร้องสิทธิของตนเองได้
นางสาวนูรอัยนีย์ เจ้ะปูเต๊ะ นิสิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี คณะ ศึกษาศาสตร์ ปี 2 อายุ 20 ปี จาก อ.เมือง จ. ปัตตานี กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้เข้ามารับการอบรม โดยตนทำงานในเครือข่ายของสภาเยาวชน เมื่อทราบข่าวแล้ว ทราบว่าเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ เราจะได้ทราบถึงสิทธิของตนเอง การเรียกร้องจากหน่วยงานใดบ้าง สามารถแก้ปัญหากับสถานการณ์ หรือต่างสถานที่ ท่ามกลางความแตกต่างในพื้นที่ และจะนำความรู้ที่ได้ไปสอนน้องๆ และจัดกิจกรรมในมหา’ลัย เพื่อให้เกิดประโยชน์มากยิ่งขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ
