ดีเอสไอ รับคดีตึกสตง.ถล่มเป็นคดีพิเศษ ไล่สอบนอมินี-ฮั้วประมูล
วันที่ 2 เมษายน ที่กระทรวงยุติธรรม ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงกรณีที่มอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เร่งพิจารณาคดีตึกถล่มเป็นคดีพิเศษ พบเข้าข่ายความผิดเป็นนอมินี เตรียมขยายผลฮั้วประมูล รวมถึงสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และตรวจสอบย้อนหลังงาน ที่บริษัทดังกล่าวได้รับการประมูลไปอีก 10 กว่างาน ว่า ขณะนี้ทาง กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ได้รับคดี อาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ถล่มพังเสียหายในเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นคดีพิเศษเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยใช้อำนาจของอธิบดี DSI เป็นความผิดท้ายพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ ในการพิจารณา
และจากการรวบรวมพยานหลักฐานพบได้ว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมการเป็นนอมินี ซึ่งปกติบริษัทชาวต่างชาติ ที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทยจะต้องมีการแบ่งสัดส่วน ผลประโยชน์ให้คนไทย 51% และเป็นต่างชาติ 49% ซึ่งทางกรมส่งเสริมคดีพิเศษมีหลักฐานมากพอที่จะสามารถเชื่อได้ว่าบริษัทแห่งนี้เข้าข่ายการเป็นนอมินี ประกอบกับมีความเสียหายมูลค่ามากกว่า 100 ล้านบาท ถือได้ว่าเข้าข่ายการเป็นคดีพิเศษ และนอกจากความผิดที่มีการรับเป็นนอมินีแล้ว ก็จะมีการขยายผลในคดี เรื่องสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพของ มอก. ส่วนการฮั้วประมูลและการดูคุณภาพเนื้องานก่อสร้าง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญในการที่ทำให้ตึกถล่มลงมาหรือไม่ จากนี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI ก็จะมีการเชิญหน่วยงานนอก เช่น สรรพากร กระทรวงอุตสาหกรรม มาร่วมเป็นคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญ
พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตนเองไม่ได้รู้สึกถึงความกังวล ในการสอบสวนคดีนี้ถึงแม้ว่า บริษัทดังกล่าวจะเป็นบริษัท วิสาหกิจของประเทศจีน ตนเองยืนยันว่าจะดำเนินการให้โปร่งใสมากที่สุดถึงแม้ว่าจะเป็นใครก็ตาม และจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปถึง โครงการอีก 10 โครงการ ที่ได้รับการประมูลไปจากทางภาครัฐ รวมไปถึงรายละเอียดเรื่องวิศวกรที่เป็นชาวต่างชาติ ที่ใช้วีซ่านักศึกษาเข้ามาทำงานด้วย นอกจากบริษัทนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ DSI จะทำการตรวจสอบบริษัทอื่นๆ ที่มีลักษณะการร่วมทุนของชาวต่างชาติ ทั่วประเทศ ว่ามีบริษัทใดบ้างที่มีพฤติกรรมการรับเป็นนอมินี เพื่อที่จะขยายผลและดำเนินคดีต่อไป