พบ 2 แก๊งคอล ไม่กระทบตัดไฟ-เน็ต มีพนง.ร่วม 3 พันคน จเรตร.เร่งสอบ มีคนไทยเอี่ยวหรือไม่

พบ 2 แก๊งคอล ไม่กระทบตัดไฟ-เน็ต มีพนง.ร่วม 3 พันคน จเรตร.เร่งสอบ มีคนไทยเอี่ยวหรือไม่

เมื่อวันที่ 4 เมษายน พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ผอ.ฉก.88) เป็นประธานการประชุมขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน ณ ห้องประชุมตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก อ.แม่สอด จ.ตาก

ที่ประชุมได้รายงานและหารือสถานการณ์ภาพรวมในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และสถานการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมา หลังจากทางการไทยใช้มาตรการตัดไฟ-อินเตอร์เน็ต-น้ำมัน ส่งผลกระทบต่อการทำงานของกลุ่มแก๊งดังกล่าว ประกอบกับการที่ประเทศไทยเสียสละทั้งกำลังพล ทรัพยากร เศรษฐกิจ ช่วยเหลือนานาประเทศ ทำให้มีการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา มีการจับกุมคนต่างชาติจำนวน 32 สัญชาติ รวมจำนวน 8,698 ราย ในจำนวนนี้ได้ดำเนินการส่งกลับประเทศต้นทางแล้ว 13 สัญชาติ จำนวน 7,011 ราย คงค้างรอส่งกลับ 1,687 ราย

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบ พบว่ายังมีการปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 2 แห่ง ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการตัดไฟ-อินเตอร์เน็ต-น้ำมัน ของทางการไทย จากการสืบสวนทราบว่ามีคนที่เกี่ยวข้องทำงานในแก๊งดังกล่าวรวมเกือบ 3,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลตรวจสอบว่ามีคนไทยไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการหรือไม่

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้ให้ความสำคัญกับกระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์ ตามกลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หากคัดแยกเบื้องต้นแล้วพบข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหยื่อ จะเข้าสู่กระบวนการคัดกรองขั้นตอนต่อไป แต่หากคัดแยกแล้วไม่พบข้อบ่งชี้ว่าเป็นเหยื่อ ก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันที และหากพบมีการลักลอบเข้าไทย แม้อ้างว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์แล้วหลบหนีมา ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและดำเนินการตามกฎหมายทุกรายเช่นกัน จะต้องไม่ให้มีการใช้กลไก NRM ในการฟอกตัว

ADVERTISMENT

โดย พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า การดำเนินการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้ประสบความสำเร็จ คือความรวดเร็วในการกวาดล้างและส่งกลับ ต้องมีกำหนดเงื่อนเวลาในการปฏิบัติการที่ชัดเจน และเจ้าหน้าที่ของไทยต้องทำทุกมิติไม่ให้ประเทศไทยเป็นทางผ่านของผู้จะเข้าร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ต้องร่วมกันซีลชายแดนให้เข้มข้นเพื่อไม่ให้มีการใช้เส้นทาง อ.แม่สอด จ.ตาก เป็นทางผ่านเข้าออกอีกต่อไป รวมทั้งตรวจสอบยุทธปัจจัยต่างๆ เช่น ที่พัก โรงแรม ยานพาหนะ อย่างเข้มงวด และขอให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องสนับสนุนข้อมูล เพื่อปราบปรามดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หากพบมีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรืออำนวยความสะดวกกับกลุ่มแก๊งดังกล่าว จะดำเนินการอย่างเด็ดขาดทุกราย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ต้องร่วมกันเดินหน้าเต็มกำลังในมาตรการระเบิดสะพานโจร ตัดสัญญาณโทรศัพท์-อินเตอร์เน็ต, ปราบบัญชีม้า ทั้งบัญชีธนาคารและบัญชีคริปโท, ป้องกันปราบปรามทั้งคนไทยและต่างชาติไม่ให้ข้ามไปทำงานแก๊งคอลเซ็นเตอร์ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้ เพื่อเป้าหมายในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดสิ้นภายในปีนี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image