สลด เกิดเหตุรถไฟทับผู้โดยสารเสียชีวิตคาสถานี ขณะจะก้าวขาลงรถไฟหัวลําโพง
เมื่อวันที่ 7 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีผู้โดยสารตกรถไฟ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต บริเวณชานชาลาที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 3 เมษายน โดยมี พ.ต.ต.ไท สว่างจิต สารวัตรสอบสวน สน.ปทุมวัน เป็นผู้รับแจ้ง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิปอเต็กตึ๊งประจำจุด สน.ปทุมวัน
ที่เกิดเหตุพบศพ นายกวินทร์ 43 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ใต้รถไฟคันที่ 6 ขบวนที่ 278 กบินทร์บุรี-กรุงเทพฯ เลขรถ บขส.1128 ชานชาลาที่ 6 สถานีรถไฟหัวลำโพง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ และมี น.ส.กวินธิดา อายุ 17 ปี ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิปอเต็กตึ๊งให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลกลางเพื่อรักษาอาการจากการตกรถไฟและเย็บแผลและกลับบ้านได้
แต่หลังจากผู้บาดเจ็บมานั่งที่ สน.ปทุมวัน กู้ภัยเห็นอาการและสีหน้าไม่สู้ดี จึงส่งต่อที่โรงพยาบาลวิมุตเทพธารินทร์อีกครั้ง จากนั้นได้สอบถามทราบชื่อผู้ขับรถไฟขบวนดังกล่าวคือ นายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งได้ถ่ายรูปทำแผนที่เกิดเหตุและส่งศพผู้เสียชีวิตทำการชันสูตรอย่างนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตและทำการสอบสวนต่อไป
ด้านภรรยาของผู้เสียชีวิต อายุ 40 ปี เปิดเผยว่า ราวๆ 7 โมงครึ่งพากันมาขึ้นรถไฟที่สถานีประจันตคาม เพราะลูกสาวกับแฟนกำลังจะเดินทางไปพิษณุโลก แล้วก็จะไปลงที่สถานีหัวลำโพงเพื่อที่จะต่อรถไฟไปยังพิษณุโลก แต่เราก็ไปส่งทั้งสองคนพ่อลูกที่สถานีรถไฟ แล้วเขาก็ตีตั๋วนอนที่หัวลำโพงเพื่อจะไปพิษณุโลก คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เพราะตอนที่เราไปส่งที่จันทคามก็ไม่มีอะไร นายสถานีก็ดูแลดีอยู่
ภรรยาของผู้เสียชีวิตกล่าวว่า ประมาณ 10.20 น. ลูกสาวโทรมาบอกว่าพ่อเสียชีวิต โดนรถไฟทับ น้องเล่าให้แม่ฟังว่าตอนนั้นน้องให้พ่อรอบนรถไฟก่อน ส่วนน้องจะยกสัมภาระลงมาไว้ด้านล่าง คิดว่าเป็นสถานีสุดท้าย คงไม่คิดว่าจะมีรถไฟเข้าเคลื่อนตัวไปไหนแล้ว น้องก็เลยให้พ่อยืนรออยู่ตรงที่ประตู ส่วนตัวเองย้ายสัมภาระลงมาไว้ด้านล่าง หลังจากนั้นพอหันไปหาพ่ออีกทีเหมือนรถไฟกระตุก ทำให้เพ่อเสียจังหวะ และเสียการทรงตัว หล่นลงมาถูกรถไฟทับ ลูกพยายามจะลงไปช่วย เพราะสามีก็ขาไม่ดี สายตาก็มองไม่ค่อยเห็น คือมีอาการพิการทางสายตา แต่ยังไปไหนมาไหนได้โดยปกติ
“จริงๆ แล้วเขาไม่ได้ประมาท แต่ข่าวลงไปว่าเขาประมาท จะบอกว่าเขาอยู่ข้างบนรถไฟแล้วรถไฟเขยื้อนตัวทำให้เขาหล่นลงมา ไม่ได้ยืนที่ชานชลา หากยืนที่ชานชาลาก็อาจจะเป็นการประมาทก็ได้ แต่นี่คนยังยืนอยู่บนรถไฟ ตอนนี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก็ยังไม่ได้ตอบรับอะไร แต่ช่วยเยียวยามาแล้ว 20,000 บาท ส่วนลูกสาวแอดมิตอยู่ที่ รพ.วิมุตเทพธารินทร์ ตอนนี้ก็อยู่ห้องไอซียู
การรถไฟฯยังไม่มีการเยียวยานอกจากประกันของตั๋วรถไฟ วงเงินอยู่ที่ 60,000 บาท และเราก็ยังไม่ทราบว่าการรักษาครั้งนี้จะใช้เงินจำนวนเท่าไหร่ เห็นเจ้าหน้าที่การรถไฟฯแจ้งว่าคนขับรถไฟจะเข้ามาชี้แจงวันนี้ แต่วันนี้ทั้งวันก็ยังไม่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาแม้แต่คนเดียว นอกจากฝ่ายบริการของการรถไฟเท่านั้น” ภรรยาของผู้เสียชีวิตระบุ
ภรรยาผู้เสียชีวิตกล่าวอีกว่า สำหรับงานศพสามี การรถไฟฯกล่าวว่าจะเป็นเจ้าภาพให้ 1 คืน โดยไม่รวมกับเงินค่าเยียวยา 20,000 บาท ส่วนเรื่องการเยียวยาของประกันก็อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งไม่เกี่ยวกับเงินเยียวยาและเงินฌาปนกิจ
“อยากฝากเตือนเจ้าหน้าที่การรถไฟฯให้มีการดูแลและตรวจขันผู้โดยสารที่ยังคงค้างอยู่ในรถไฟทุกขบวน จะได้รู้ทั่วกันและจะไม่เกิดอุบัติเหตุ หลังจากนี้ก็จะรอการรถไฟฯมาตกลงที่ สน.ปทุมวัน เพื่อดูแลเยียวยา” ภรรยาระบุ
ขณะที่ น.ส.กวินธิดา ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า วันเดินทางไปกับพ่อ ขึ้นรถไฟจากประจันไปลงหัวลำโพงแล้วก็จะต่อแท็กซี่ไปลงที่สถานีกรุงเทพอภิวัฒน์เพื่อไปพิษณุโลก เมื่อถึงหัวลำโพงแล้วเราคุยกันว่าเดี๋ยวให้คนลงรถออกให้หมดก่อน แล้วพ่อค่อยลง ส่วนตนจะทยอยเอาสัมภาระลง
“ไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่โบกธงเห็นหนูไหม แต่หนูยืนอยู่ตรงบันได พอขนสัมภาระลงมาไว้ที่ชานชาลาเสร็จถึงให้คุณพ่อค่อยๆ จับราวบันไดเดินลงมาจากรถไฟ จากนั้นรถไฟได้มีการขยับเขยื้อนตัว 1 ครั้ง ทำให้พ่อเสียหลัก และก็มีขยับเขยื้อนอีกประมาณ 2-3 ครั้ง พอครั้งที่ 3 คุณพ่อเสียหลักหล่นลงไปด้านล่างรางรถไฟ แล้วหนูที่จับคุณพ่อไว้ก็หล่นลงไปด้วย ตอนนั้นเห็นล้อรถไฟกำลังเคลื่อนมาหาตัวหนูเลยพลิกตัวเข้าหากำแพงแล้วหลับตา ล้อรถไฟผ่านไปจากหนูแล้วไปทับคุณพ่ออีกทีนึง จากนั้นก็มีคนตะโกนร้องว่ามีคนตกรถไฟและก็มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเอาหนูออกจากราง นำส่งโรงพยาบาล ตอนนั้นหัวหนูแตก เย็บประมาณ 5 เข็ม” น.ส.กวินธิดากล่าว
สำหรับร่างของนายกวินทร์ ครอบครัวนำไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมะกอกแก้ว ถนนโครงการบ้านเกาะมะไฟ หมู่ 7 ต.บ้านหอย อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี