“วิศวะ” แฉแอบอ้างชื่อ-ปลอมลายเซ็นคุมงานสร้างตึกสตง. เข้าพบ”ดีเอสไอ”ลุยเอาผิดผู้เกี่ยวข้องวันนี้
ความคืบหน้ากรณี นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง เมื่อวันที่ 13 เมษายน ลงบันทึกประจำวันกรณีปรากฏชื่อเป็นผู้ควบคุมงาน (กิจการร่วมค้า PKW) ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ และมีการปลอมลายเซ็นนั้น
ทั้งนี้วันที่ 14 เมษายน นายสมเกียรติเปิดเผยผ่านแฟนเพจ “ช่าง ซ่อม สร้าง” ว่า “update เรื่องถึง DSI แล้ว ตรวจสอบได้ข้อมูลมาแล้ว โครงการอาคาร สตง.นี้เคยติดต่อผมมาเมื่อปี 2563 ชวนให้มาร่วมงานกัน แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกัน จนลืมไปแล้วว่าเคยมีการติดต่อเรื่องโครงการนี้ นี่ถ้าอาคารไม่ได้เกิดการถล่มลงมา จนมีการตรวจสอบกัน จะไม่รู้เลยว่ามีการอ้างชื่อผมเป็นวิศวกรควบคุมงาน เป็นเวลาถึง 5 ปี (เกือบโดนใช้ชื่อฟรี 5 ปีแล้ว)
“ขอขอบคุณ คุณฐปณีย์ เอียดศรีไชย ที่ช่วยตรวจสอบโครงการ คุณเอกสิทธิ์ หัสสรังสี ที่ส่งข้อมูลมาให้ คุณวัฒนพงศ์ หิรัญมาลย์ อ.ต้น ที่ support เอกสารเพิ่มเติม อยากรู้จัง ค่าแอบเอาชื่อไปใช้ 5 ปี ควรเป็นเท่าไหร่ ค่าวางศาล กับค่าทนาย แพงไหมนะ” นายสมเกียรติระบุ
นอกจากนี้ นายสมเกียรติระบุเพิ่มว่า เวลา 14.00 น. วันที่ 14 เมษายน จะไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วังทองหลาง โดยมี เจ้าหน้าที่จาก สน.บางซื่อ ร่วมด้วย และในวันที่ 15 เมษายน เวลา 13.30 น. จะไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ต่อไป
เวลา 14.00 น. ที่ สน.วังทองหลาง นายสมเกียรติ เข้าพบพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมหลังได้ลงบันทึกประจำวันเมื่อวันที่ 13 เมษายน เนื่องจากถูกแอบอ้างชื่อในเอกสารแก้ไขแบบปล่องลิฟต์อาคาร สตง.แห่งใหม่ถล่มจากเเห่งแผ่นดินไหว ในฐานะผู้ควบคุมงานของกิจการร่วมค้า
นายสมเกียรติ กล่าวว่า วันนี้มาให้การพร้อมพยานหลักฐานเพิ่มเติมมายื่นให้กับพนักงานสอบสวน ในกรณีที่ถูกแอบอ้างชื่อไปใช้ในการแก้ไขแบบปล่องลิฟต์ของอาคาร สตง.แห่งใหม่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับการโครงการสร้างอาคารดังกล่าว เพียงเเต่ว่าปี 2563 ได้รับติดต่อมาจากกิจการค้าร่วม PKW ซึ่งไม่ได้รู้จักกับกิจการค้าร่วมนี้ แต่รู้จักบุคลากรที่อยู่ที่เกี่ยวข้องในกิจการค้าร่วมนี้ ซึ่งไม่ได้ปฏิเสธ แต่บุคคลที่ติดต่อมาก็หายเงียบไปเองโดยไม่ได้มีการตกลงเซ็นเอกสารใดๆ ให้กับบุคคลรายนี้ กระทั่งเรื่องมาเเดงตรงที่น้องของตนมาบอกว่าตนถูกแอบอ้างชื่อไปว่าเป็นวิศวกรที่คุมโครงการดังกล่าว
“หลังจากทราบเรื่องรู้สึกตกใจเลยไปปรึกษาผู้ใหญ่ และมาลงบันทึกประจำวันที่ สน.วังทองหลาง ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ หลังจากเป็นข่าวออกไปได้มีบุคคลที่คาดว่าจะโทรมาจากกลุ่มกิจการค้าร่วม PKW ติดต่อในลักษณะที่ว่าเกิดเหตุการณ์นี้แล้วจะทำอย่างไรได้บ้าง ผมเลยบอกว่าเรื่องมาถึงขนาดนี้ ซึ่งแอบอ้างชื่อผมมาตั้ง 5 ปี คงช่วยอะไรไม่ได้” นายสมเกียรติกล่าว
นายสมเกียรติกล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบลายเซ็นดังกล่าวพบว่าเป็นลายเซ็นปลอมทั้งหมด โดยตำแหน่งของตนที่ถูกเอาไปอ้างคือผู้จัดการโครงการ ถือว่าเป็นตำแหน่งที่ใหญ่มาก ตนจบวิศวะมา 2 สาขาคือ สาขาวิศวะโยธาและสาขาวิศวะสิ่งแวดล้อม ในส่วนที่เอาไปแอบอ้างคือสาขาวิศวะโยธา ซึ่งอัตราค่าจ้างเป็นรายเดือน หากรับงานราชการจะได้ประมาณเดือนละมาก กว่า 1 แสนบาท โดยคาดว่าบริษัทที่แอบอ้างชื่อตนอาจต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
“ขณะนี้ กำลังปรึกษากับทีมกฎหมายของผมอยู่ว่าต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการวางศาลเท่าไหร่ ค่าทนายเท่าไหร่ รวมถึงหากคำนวณเป็นเงินในระยะเวลา 5 ปีที่ถูกแอบอ้างนั้นจะคุ้มกันหรือไม่ ที่ผมต้องออกมาในวันนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ชื่อเสียงของผมไปถูกแอบอ้างทำให้เกิดความเสียหาย” นายสมเกียรติกล่าว