ชาวกะเหรี่ยง จ.ลำพูน ทำความดี รักษาป่าต้นน้ำ ตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ ในหลวง ร.9

สายทอง (คนที่ 3 จากขวาแถวหน้า)

เมื่อวันที่ 5 เมษายน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชานุญาตให้ราชสกุล องคมนตรี คณะรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง กรม องค์กรอิสระ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ร่วมเป็นเจ้าภาพในการบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ เป็นวันที่ 120 อาทิ บริษัท โอ อาร์ ซี พรีเมียร์ จำกัด บริษัท แอคคอร์ด พรีเวล อีเล็คทริค 1999 จำกัด บริษัท ทีเคเค คอร์ปอเรชั่น บริษัท ทีเอสไอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท อาร์ค อินไซท์ จำกัด และบริษัทในเครือ บริษัท 448 จำกัด บริษัท จินดาสมุนไพร จำกัด กลุ่มบริษัท ชัยภูมิพืชผล จำกัด บริษัท ซี เนเชอรัล ฟาร์มาซูติคอล จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) บริษัท อินเทค จำกัด บริษัท ซีพีเค แพลนเตชั่น จำกัด บริษัท เอเชีย แปซิฟิค โปแตช คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท สยามสติลชินดิเกต จำกัด (มหาชน) และบริษัทโอเพ่น เทคโนโลยี จำกัด บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เป็นต้น

เวลา 10.00 น. นางสาวปวีณา เหล่าวิวัฒน์วงศ์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท สหโมเสคอุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) เป็นประธานบำเพ็ญกุศลและถวายภัตตาหารเพลแด่พระสงฆ์ 10 รูป

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 4 เมษายน ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 26,040 คน รวม 153 วัน มี 5,866,355 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,735,909.50 บาท รวม 153 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 482,873,635.26 บาท

Advertisement

สำหรับบรรยากาศการเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เหล่าพสกนิกรจากทั่วประเทศยังคงเดินทางมาเข้าคิวสักการะต่อเนื่อง แม้จะมีสายฝนโปรยปรายในช่วงเช้า ทำให้บรรยากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนจัด

นางสายทอง เงินเลิศสกุล อายุ 41 ปี ชนเผ่ากะเหรี่ยง(ปกาเกอะญอ) อาชีพเกษตรกร และค้าขายเครื่องหัตถกรรมชนเผ่า ชุมชนบ้านพระบาทห้วยตุ้ม ต.ท่าทราย อ.ลี้ จ.ลำพูน กล่าวว่า ตนพร้อมกับชนเผ่ากะเหรี่ยงในชุมชน กว่า 10 คนได้เช่ารถตู้มาคนละ 2 พันบาท เพื่อเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะพระองค์มีพระมหากรุณาธิคุณต่อชนเผ่าอย่างมาก ซึ่งพระองค์เคยเสด็จฯ พร้อมพระบรมวงศานุวงศ์ยังชุมชนบ้านพระบาทห้วยตุ้ม 3 ครั้ง ระหว่างปี 2521-2523 เพื่อเยี่ยมราษฎรและพระราชทานที่ดินให้ปลูกบ้านพักอาศัย และที่ดินทำกินแก่ครอบครัวชนเผ่า และทรงให้จัดตั้งศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยตุ้ม รวมถึงสร้างอ่างเก็บน้ำแม่ลอง และอ่างเก็บน้ำแม่ปูน้อย อยู่ใกล้กับชุมชน ทำให้ชาวบ้านได้มีงานทำ และมีน้ำทำการเกษตรและเลี้ยงสัตว์

“พวกเราตั้งใจอยากจะมากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 นานแล้ว วันนี้ได้มากราบรู้สึกปลาบปลื้มใจและปีติอย่างมาก เพราะไม่รู้ว่าจะได้ตอบแทนพระคุณพระองค์ได้แค่ไหน ทุกวันนี้ก็ได้แต่ทำความดีตามที่พระองค์สอนไว้ คือ คิดดี ทำดี ปลอดจากยาเสพติด รักษาต้นน้ำ และประกอบอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พวกเรามีอาชีพทุกวันนี้ทั้งด้านเกษตร ทอผ้าชุดประจำเผ่า รวมถึงทำเครื่องเงินขาย มีที่อยู่อาศัยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ก็ด้วยพระเมตตาของพระองค์ที่ทรงช่วยเหลือ”นางสายทอง กล่าว

Advertisement
สิรินาถ ธงศิลา

นางสาวสิรินาถ ธงศิลา อายุ 32 ปี ชาวชัยภูมิ รับราชการครูแนะแนวที่โรงเรียนพรตพิทยพยัต ย่านลาดกระบัง ซึ่งมาสักการะพระบรมศพกับเพื่อนๆร่วมกัน 4 คน กล่าวว่า มากราบสักการะเป็นครั้งที่ 3 เนื่องจากอยู่ในช่วงปิดเทอม หากว่างเมื่อไหร่ก็อยากจะมาเรื่อยๆ ประทับใจที่พระองค์ทรงปกครองประเทศด้วยหลักทศพิธราชธรรม ด้วยความอดทนนับตั้งแต่ทรงขึ้นครองราชย์ เป็นต้นแบบของการปกครองแบบพ่อปกครองลูกด้วยหลักคุณธรรม มุ่งมั่นเพื่อลูกๆทุกคน การปกครองประเทศด้วยความใกล้ชิดกับประชาชน ใช้ความเมตตากรุณา และใช้ถ้อยคำที่ดีๆ แก่คนทำงานด้วยกันทุกคนนั้น ทำให้เราสามารถนำมายึดใช้ได้ในการทำงาน พูดจาดีๆกับเด็กนักเรียน ถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนเป็นแม่กับลูก อย่างเด็กรุ่นใหม่อาจไม่ทราบว่าถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงร.9 มากนัก ก็จะคอยพยายามสอนเด็กๆ เช่น เราเป็นครูแนะแนว เมื่อพูดเรื่องการเรียน การทำงาน ความรัก ทุกอย่างที่สอนเขาก็สามารถยึดในหลวงร.9 เป็นแบบอย่างได้ทั้งหมด เช่นศึกษาให้ดี เลือกที่เหมาะกับตน เพื่อไปพัฒนาประเทศชาติเหมือนกับพระองค์

เป้า ช่วยจะนะ

นางเป้า ช่วยจะนะ อายุ 68 ปี ชาวจ.ตรัง ที่ตั้งใจเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพโดยมาถึงตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่แล้ว และมากราบสักการะพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 กล่าวว่า แม้ไม่เคยได้รับเสด็จในหลวง ร.9 มาก่อน แต่ก็ติดตามพระราชกรณียกิจต่างๆ ของพระองค์เสมอ ผ่านทางข่าว ดีใจที่ได้มากราบสักการะเป็นครั้งหนึ่งในชีวิต ประทับใจที่พระองค์เสด็จฯไปตามที่ต่างๆทั่วประเทศ บุกป่าลุยน้ำช่วยเหลือราษฎรอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ตนดำรงชีพเป็นเกษตรกรสวนยาง ก็ได้ยึดเอาคำสอนเรื่องความพอเพียงมาใช้ ทำให้ชีวิตดีขึ้นมาก

ดารารัตน์ ภู่พร้อมพันธุ์

นางดารารัตน์ ภู่พร้อมพันธุ์ อายุ 58 ปี พักอยู่บ้านพักย่านเขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ กล่าวภายหลังที่สักการะพระบรมศพว่า มาสักการะพระบรมศพครั้งแรกในชีวิต รู้สึกตื้นตันใจมาก เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้มาสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 แล้ว เนื่องจากสุขภาพไม่ค่อยดี ป่วยตลอดเวลา วันนี้ตั้งแต่เช้าก็มีอาการปวดเข่ามากคิดว่าจะมาไม่ได้แล้ว แต่นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ทรงมีต่อปวงชนชาวไทย จึงทำให้มีแรงฮึดสู้เดินทางมาสักการะพระบรมศพให้จนได้ ถึงแม้ว่ามาถึงสนามหลวงแล้วจะต้องเดินเท้าอีกระยะหนึ่งกว่าจะถึงจุดหมายก็ไม่เป็นไร เพราะถือว่าครั้งหนึ่งในชีวิตที่จะได้มีโอกาสถวายความจงรักภักดีต่อในหลวง ร.9

“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อปวงชนชาวไทยเป็นอย่างพระองค์ได้พระราชทานความช่วยเหลือประชาชนมากล้น ทั้งเรื่องน้ำ เรื่องข้าว เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง เคยตามสามีซึ่งเป็นอดีตข้าราชการชำนาญการเกษตร ไปประจำอยู่ที่จังหวัดนครปฐม ได้เห็นสามีนำความรู้เรื่องปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวง ร.9 วิธีการปลูกข้าว การทำสวนปลูกผัก ไปถ่ายทอดและสอนเกษตรกรอยู่เป็นประจำ ทุกวันนี้แม้สามีจะเสียชีวิตไปแล้วถึง 3 ปี แต่ภาพที่ได้ศึกษาจากการสอนของสามี ก็ทำให้ทุกวันนี้เราสามารถปลูกผัก ขุดสระเลี้ยงปลา ไว้กินเองได้ โดยึดถือว่าพึ่งพาตัวเองให้มากที่ นอกจากนี้เรายังนำความรู้เหล่านี้ไปถ่ายทอดให้เพื่อนบ้านเพื่อให้เขาปลูกผัก เลี้ยงปลาไว้กินเองอีกด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นการลงทุนที่ยั่งยืน และกำไรที่ได้รับกลับมาคือความสุขที่ยั่งยืนนั่นเอง”นางดารารัตน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image