ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (7 เม.ย) เมื่อเวลา 16.00 น. ที่ห้องประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กอร.รส.) พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ รองแม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะรอง ผอ.กอร.รส. เปิดเผยภายหลังการประชุม กอร.รส. ว่า ในวันนี้ที่ประชุมได้มีการติดตามความคืบหน้าการปรับพื้นที่บริเวณท้องสนามหลวง ซึ่งได้ดำเนินการไปตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงสามารถคืนพื้นที่บริเวณสนามหลวงด้านทิศเหนือให้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เร็วกว่ากำหนดถึง 15 วัน
ประชาชนสามารถเข้าคิวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพได้อย่างถูกต้อง สถิติช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาพบว่า บริเวณที่นั่งพักคอยฝั่งตรงข้ามประตูวิเศษไชยศรีสามารถรองรับประชาชนได้ 1,000 คน และบริเวณเต็นท์พักคอยฝั่งทิศใต้ช่วงโค้งสนามหลวงสามารถรองรับได้ 5,000 คน ซึ่งแต่ละวันมีประชาชนไม่หนาแน่นยกเว้นช่วงเช้า ที่มีจำนวนประชาชนถึง 10,000 คน
โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกให้ประชาชนเข้ากราบสักการะพระบรมศพแล้วเสร็จทั้งหมดไม่เกินเวลา 08.00 น. ส่วนการบริการอาหารก็มีการปรับเปลี่ยน ซึ่งช่วงเช้าจะบริการอาหารที่บริเวณประตูเทวาภิรมย์เป็นหลัก ส่วนช่วงสายจะให้ประชาชนไปรับประทานอาหารที่โรงทาน บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม และกองสลากเก่าโดยจะมีครัวจิตอาสาคอยบริการ อีกทั้ง ยังจัดหน่วยแพทย์ภาคสนามตั้งจุดบริการตลอดแนวเต็นท์พักคอย
พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ เปิดเผยต่อไปว่า สำหรับยอดประชาชนที่เข้ารอคิวเพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพอยู่ที่ 20,000-30,000 คน ต่อวัน ซึ่งไม่ได้ลดน้อยลงแต่อย่างใด ส่วนยอดประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการเย็นศิระเพราะพระบริบาล ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีผู้เข้าชมทั้งหมด 200,000 คน ทางกอร.รส.ยังคงจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการเป็นประจำทุกวัน นอกจากนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมพร้อมจิตอาสา ยังคงจัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและแนะนำการแต่งกายที่ถูกต้องและเหมาะสม
ด้าน พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงมาตรการการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่และบริเวณโดยรอบสนามหลวงว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบกล้อง cctv ทั้งในพื้นที่สนามหลวงและบริเวณโดยรอบให้พร้อมใช้งานตลอด 24 ชั่วโมง หากพบจุดไหนชำรุด หรือต้องมีการติดตั้งเพิ่มเติม ให้เร่งดำเนินการทันทีโดยเฉพาะในพื้นที่การก่อสร้างพระเมรุมาศ ซึ่งกรมศิลปากรจะมีการขยายพื้นที่การก่อสร้างเพิ่มเติม รวมถึง ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่มีการตรวจสอบบุคคลเข้าออกในพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการรักษาความปลอดภัย ส่วนถังขยะในพื้นที่สนามหลวง ปัจจุบันทางกทม.ได้ทำการปรับเปลี่ยนเป็นถังขยะใส และถุงพลาสติกใสแทนของเดิมทั้งหมดแล้ว ขณะที่ถังขยะบริเวณโดยรอบทางกทม. ก็จะเร่งดำเนินการเปลี่ยนทั้งหมดเพื่อให้ง่ายต่อการสังเกตวัตถุต้องสงสัยภายในถังขยะ
พล.ต.ท.อำนวย กล่าวต่อว่า ในช่วงของเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่จะมีการจัดพื้นที่ในการเล่นน้ำสงกรานต์อย่างชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบกับประชาชนที่มาเข้ากราบสักการะพระบรมศพ โดยนำแผงเหล็กมากั้นบริเวณพื้นที่จัดกิจกรรมสงกรานต์ โดยเฉพาะที่ถนนข้าวสาร ได้ทำการปิดพื้นที่แยกคอกวัว ถนนพระอาทิตย์ ถนนจักรพงษ์ รวมทั้ง กำหนดเวลาในการจัดกิจกรรม โดยให้เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00 -22.00 น.ของวันที่ 12-15 เม.ย.60 เบื้องต้นทางกทม.ได้ประสาน บช.น. จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจกวดขันและบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่กระทำความผิด.
