นักวิชาการ ชี้ปมสั่งย้าย ‘หมอสุภัทร’ เหตุร่วมค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน ไม่ใช่หน้าที่ทหาร แนะหยุดคุกคามคนเห็นต่าง

คืบหน้ากระแสข่าวการลงนามคำสั่งสีเขียวของ พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 ถึงกระทรวงสาธารณสุข กรณีย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา ออกนอกพื้นที่สาเหตุมาจากการร่วมคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยังคงครึกโครมในโซเชียลมีเดีย ตลอดจนการให้กำลังใจอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด เมื่อวันที่ 8 เมษายน นายจรูญ หยูทอง นักวิชาการอิสระ กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องในหลายประเด็นที่สำคัญไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพราะหมอสุภัทรไม่ได้กระทำความผิดร้ายแรง มิหนำซ้ำกลับเป็นตัวละครที่มีคุณค่าสำหรับการดูแลปัญหาของพี่น้องชาวภาคใต้ไม่ใช่เฉพาะในเรื่องสุขภาพทางด้านร่างกาย แต่ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องของทรัพยากรธรรมชาติ สุขภาพชุมชน และยังเป็นที่รักของคนที่มีใจเป็นธรรม

“กรณีการย้ายหมอสุภัทรไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ไม่มีความชอบธรรม เพราะที่สำคัญคือที่มาของการย้ายไม่ได้ย้ายโดยต้นสังกัด คือกระทรวงสาธารณสุข แต่แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้ดูแลพื้นที่ภาคใต้เป็นผู้มีหนังสือไปยังกระทรวง ซึ่งทำให้กระทรวงอึดอัดเช่นกัน เพราะทางกองทัพก้าวก่ายอำนาจ สร้างความไม่ชอบธรรมในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานต้นสังกัด หรือภาคประชาชน โดยพื้นฐานเรื่องความคัดแย้งกรณีโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมต่างๆ ในพื้นที่ภาคใต้เป็นเรื่องระหว่างภาคประชาชนกับรัฐบาล ในส่วนของหมอสุภัทรก็ได้นำเสนอความคิดเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งที่นำเสนอหลักวิชาการไม่ได้มีการปลุกระดม และก่อความวุ่นวายมีกองกำลังหรือมวลชนแต่อย่างใด”

Advertisement

นายจรูญ กล่าวอีกว่า กรณีดังกล่าวบังเอิญออกมาในช่วงที่กำลังมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประกาศเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมองว่าไม่สอดคล้องกับพฤติกรรมของข้าราชการ หรือหน่วยงานของภาครัฐ เพราะเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มีบัญญัติไว้ว่าการดำเนินการ หรือการใช้อำนาจของภาครัฐจะต้องกระทำไปเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน ฝ่ายรัฐบาลเองโดยเฉพาะองค์กรในพื้นที่ก็ควรจะยึดหลักตามรัฐธรรมนูญนี้ไม่ใช่ใช้อำนาจตามอำเภอใจขาดความชอบธรรม ขณะนี้ภาคใต้กำลังถูกก่อวินาศกรรมอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เป็นพื้นที่หนึ่งในเหตุการณ์ความไม่สงบ เพราะฉะนั้นการที่ใช้อำนาจรัฐบางส่วนไม่ว่าจะด้วยความเห็นชอบของนายกหรือไม่มาทำการแบบนี้เป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม ทำให้ประชาชนตั้งคำถามว่าผู้ก่อการร้ายที่เกิดขี้นอำนาจรัฐไม่เข้าไปจัดการอะไรได้บ้าง แต่กับหมอคนหนึ่งซึ่งเป็นที่รัก ทำประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ทำไมอำนาจรัฐไม่ยอมรับความดี และทำให้เห็นว่าใครก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับภาครัฐ ต้องโดนแบบหมอสุภัทร ซึ่งคิดว่าโดยภาพรวมทั้งหมดไม่ส่งผลดีต่รัฐบาล

“การหาทางออกเรื่องนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ควรยุติคำสั่ง และกลับไปทำภารกิจเกี่ยวกับความมั่นคงในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนซึ่งเป็นภารกิจหลัก เพราะหน้าที่ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าถ่านหินไม่ใช่หน้าที่ทหาร ความมั่นคงพลังงานเป็นเรื่องของประชาชนกับรัฐบาล หน้าที่ของทหารมีอยู่แล้วโดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หมอสุภัทรดูแลพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน การย้ายออกนอกพื้นที่ใครจะได้ประโยชน์ นอกจากผู้ที่สร้างโรงไฟฟ้า แต่ไม่ใช่ทางออกที่ดีถึงไม่มีหมอสุภัทร หรือหมอไม่ได้อยู่โรงพยาบาลจะนะ ก็มีสิทธ์ที่จะแสดงความคิดเห็นได้ เพราะว่าท่านก็ไม่ได้เอาตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะกล่าวอ้าง ท่านก็ไปร่วมเวทีแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าคำสั่งย้ายคุณหมอได้ไม่คุ้มเสีย โดยเฉพาะรัฐบาลนี้ไม่ได้รับประโยชน์อะไร และยังทำให้ประชาชนเสียความรู้สึกกลับมองว่าสุดท้ายรัฐบาลก็ไม่ต่างอะไรจากรัฐบาลอื่นๆ โดยเฉพาะการใช้อำนาจกับคนดีที่ขัดกับนโยบายของภาครัฐ ซึ่งมันก็ไม่ใช่หน้าที่ที่ควรทำ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ทางเครือข่ายประชาชนติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ออกแถลงการณ์ เรื่องหยุดใช้อำนาจคุกคามข้าราชการที่มีความคิดเห็นแตกต่าง กรณี นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ โดยขอเรียกร้องให้แม่ทัพภาคที่ 4 แสดงความรับผิดชอบดังนี้

“ต้องถอนเรื่องดังกล่าว พร้อมกับการขอโทษไปยังกระทรวงสาธารณสุข ต่อการใช้อำนาจ หยุดการคุกคามในรูปแบบใดๆกับ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่มีความคิดเห็นแตกต่างเรื่องโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และต้องใช้อำนาจ หน้าที่ไปในทางที่เหมาะสมกับความเป็นแม่ทัพภาค โดยเฉพาะการทุ่มเทสรรพกำลังไปกับเรื่องการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ดียิ่งขึ้น”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image