หอการค้าพะเยา เตือนธุรกิจท้องถิ่นปรับตัวหลัง ‘เซ็นทรัลกรุ๊ป’บุก ชี้วัฒนธรรมตลาดเปลี่ยน

เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายคงศักดิ์ ธรานิศร ประธานหอการค้าจังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่ได้มีการขยายสาขาของกลุ่มทุนเซ็นทรัลกรุ๊ปเข้ามาในพื้นที่จังหวัดพะเยา ทำให้มองได้ว่า ธุรกิจท้องถิ่นต้องปรับตัวให้เท่าทันต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ซึ่งภาษิต “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” หรือ “ปลาเร็วกินปลาช้า” เป็นประโยคอมตะในการทำธุรกิจ การค้าขายและการให้บริการในวันนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเพราะเทคโนโลยีมีการพัฒนาตลอด ปัจจุบันจะสังเกตได้ว่าชีวิตของผู้คนแทบจะอยู่ในสังคมออนไลน์ทั้งสิ้น สื่อสิ่งพิมพ์ โทรทัศน์ วิทยุ โทรศัพท์บ้าน จะจางหายไป เช่นเดียวกับวิถีชีวิตคนพะเยาก็ย่อมเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับการมาลงทุนของกลุ่มทุนต่างๆ ในพะเยา ทั้ง โลตัส แมคโคร และล่าสุดคือกลุ่มเซ็นทรัลที่จะมาเปิดเป็นท็อปส์พลาซ่า ย่อมมีทั้งผลดีและผลกระทบ

“เมื่อโลกการค้าปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นการลงทุนเสรี ไม่อาจปิดกั้นการขยายตัวของกลุ่มทุนได้ ขณะเดียวกันท้องถิ่นจะปรับตัวกันอย่างไรให้ก้าวเดินต่อไปได้อย่างไม่มีอุปสรรค เมื่อมีการแข่งขันสูงย่อมเกิดผลดีคือผู้บริโภคมีโอกาสเลือกสิ่งที่ดีที่สุดได้มากขึ้นทั้งสินค้าและบริการที่หลากหลาย การแข่งขันทำให้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น ช่องทางการจำหน่ายและพัฒนาคุณภาพสินค้า การกระจายสินค้าการเกษตร สินค้าชุมชน ลดการเดินทางไปจังหวัดใหญ่ๆ ลดการใช้จ่ายนอกพื้นที่ ได้รับข้อมูลด้านเทคโนโลยีและการจัดการซื้อขายที่ดีกว่า” นายคงศักดิ์กล่าว

นายคงศักดิ์กล่าวอีกว่า ส่วนข้อสังเกตที่มองว่าเป็นผลกระทบ มองว่าอาจจะเป็นเป็นผลกระทบต่อธุรกิจท้องถิ่น หากไม่ปรับตัวผู้ประกอบการอาจจะประสบกับภาวะขาดทุน ล้มละลาย เนื่องจากโครงสร้างของตลาดถูกเปลี่ยน วงจรเศรษฐกิจถูกเปลี่ยน วัฒนธรรมเกี่ยวกับตลาดของพะเยาเปลี่ยนไป การเสียเปรียบเรื่องต้นทุนและกำไรเพราะมีเงินลงทุนที่มากกว่าพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ทำให้ได้สินค้ามาในราคาที่ถูกกว่า ข้อสังเกตเหล่านี้เป็นข้อห่วงใยต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้นหากธุรกิจท้องถิ่นเข้าใจสถานการณ์ ปรับกลยุทธ์ รุก รับ ปรับตัว จึงจะอยู่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image