ปลัด สธ.ให้ความร่วมมือตำรวจ จัดงบ 7 ล้านตรวจเลือดผู้ประสบอุบัติเหตุหาปริมาณแอลกอฮอล์

นพ.โสภณ เมฆธน

เมื่อวันที่ 11 เมษายน นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงความร่วมมือในการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดของผู้ประสบอุบัติเหตุนั้น ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่มีการสั่งการลงมากำชับให้มีการเอาจริงเอาจังในการตรวจเลือด และที่แตกต่างจากของเดิมคือมีการลดระดับปริมาณแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดไม่เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ของเดิมกำหนดอยู่ที่ประมาณ 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ถ้าตรวจเจอในเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี ต้องติดตามเอาผิดไปยังร้านค้าที่จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ตรงนี้ก็จะทำให้การดำเนินคดีความต่างๆ ชัดเจนด้วย เพราะเมื่อขึ้นศาลต้องใช้ผลตรวจระดับแอลกอฮอล์จากเลือด ส่วนที่จะเจาะเลือดใครบ้างนั้นต้องขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ตำรวจส่งเรื่องมา ส่วนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขสามารถเจาะเลือดตรวจได้ทุกแห่ง หากมีทีมอยู่ใกล้เคียงก็สามารถทำการเจาะเลือด ณ จุดเกิดเหตุได้ หรือส่งตัวมาที่สถานพยาบาลเพื่อเจาะเลือดก็ได้ เมื่อเจาะแล้วก็ส่งไปตรวจที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ยิ่งตรวจได้เร็วก็ยิ่งดี ถ้าปล่อยไว้นานก็ตรวจหาปริมาณแอลกอฮอล์ได้ยาก เบื้องต้นคิดว่าน่าจะใช้งบประมาณ 6-7 ล้านบาท ในการตรวจเลือดช่วง 7 วันอันตราย

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมามีหลายเคสที่ผู้ประสบเหตุอ้างเรื่องสิทธิ ไม่ยอมให้เจาะเลือดตรวจแอลกอฮอล์ นพ.โสภณ กล่าวว่า คุณทำผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าผิดพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหรือเปล่า ถ้าคุณไม่เมา ไม่ทำผิดกฎหมายพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจหรือไม่ ที่อยากบอกคือครั้งนี้รัฐบาลส่งสัญญาณว่าเอาจริง เชื่อว่าจะช่วยลดอุบัติเหตุท้องถนนได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image