‘โชกุน’ ปฏิเสธฉ้อโกง ไม่ทราบเช่าเหมาลำไปโอซาก้าไม่ได้ กรณีอ้างบุคคลชั้นสูงออร์แกไนซ์จัด!

ตามที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ. 1 พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช ผบก.ส. 4 เจ้าหน้าที่ทหาร และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจภูธรจังหวัดระนอง นำตัวน.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 939/2560 ลงวันที่ 12 เมษายน ในฐานความผิดฉ้อโกงประชาชน มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)

โดยเวลา 01.00 น. วันที่ 13 เมษายน ตำรวจได้แสดงหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหาให้น.ส.พสิษฐ์ ทราบ พร้อมทั้งได้มอบหมายให้แพทย์จาก ร.พ.ตำรวจ มาตรวจร่างกายเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ถูกทำร้ายร่างกายขณะควบคุมตัวดังกล่าว ซึ่งแพทย์ผู้ทำการตรวจร่างการระบุว่า ผลการตรวจร่างกายไม่พบบาดแผลภายนอก และไม่พบการถูกร้ายร่างกายแต่อย่างใด ก่อนจะเปิดโอกาสให้ผู้สื่อข่าวได้ซักถามข้อเท็จจริงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากการสอบถาม น.ส.พสิษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้กระทำการฉ้อโกงประชาชนแต่อย่างใด ซึ่งแท้ที่จริงแล้วตนได้เปิดบริษัทขายสินค้าออนไลน์ และได้ชวนผู้ที่สนใจมาเข้าร่วม โดยมีการแบ่งโปรโมชั่นในเรื่องของยอดขายให้ และได้มีการจัดโปรโมชั่นออกมาหลายรูปแบบ ซึ่งสิ่งที่ทำให้คนเกิดความน่าสนใจมากที่สุด คือ การจัดท่องเที่ยว ได้มีการจัดทริปไปท่องเที่ยวมาหลายครั้ง โดยเริ่มทำตั้งแต่ปลายเดือน ธันวาคมปี 2559  ได้ชักชวนผู้ที่สนใจมาร่วมทำ กระทั่งเดือนมกราคม  สมาชิกบอกว่าไม่มีเงินลงทุน แต่สามารถหาคนได้ ตนจึง ได้ไปหาสินค้าที่ดีๆ มาขาย พอปลายเดือนมกราคม ได้จดทะเบียนบริษัท หลังจดทะเบียนบริษัทได้พาสมาชิกไปเที่ยวประเทศฮ่องกง เพราะผู้ที่สนับสนุนเงินทุนอยู่ที่นั้น สำหรับสาเหตุที่เปลี่ยนชื่อและนามสกุลหลายครั้งเพราะเป็นความเชื่อส่วนตัว ไม่ได้เปลี่ยนหนีคดี ซึ่งชื่อนามสกุลล่าสุด รวมเลขศาสตร์ได้ 97

“ต่อมาได้เริ่มพูดคุยกันว่าทำอย่างไรให้ยอดขายโตเร็ว เพราะสินค้าแต่ละตัวราคาค่อนข้างสูง ก็เลยคุยกันว่าต้องมีการโปรโมท เช่นในช่วงแรก ซื้อผลิตภัณฑ์ให้คนที่สมัครสมาชิกกินฟรี เมื่อกินแล้วดีก็จะบอกต่อให้คนอื่นทราบ จนสมาชิกคนใดสามารถทำยอดขายได้มาก ก็จะได้ไปเที่ยวที่อื่นๆ ด้วยแล้วแต่โปรโมชั่น แต่ที่มาดังเป็นพลุแตก คือประมาณเดือนกุมภาพันธ์  ได้จัดทริปไปเมืองโอซาก้า 40 กว่าคน เป็นพ่อทีมแม่ทีม ซึ่งเสียค่าสมัคร 500 บาทเท่านั้น และได้ไปเที่ยวฟรี เมื่อคนที่ไปโอซาก้ากลับมาก็ได้มาโฆษณาให้เพื่อนๆ ทราบ จนกระทั่งอยากให้มีทริปเพิ่ม กระทั่งวันที่ 5 เมษายน  ตนได้จัดทริปอีกครั้งไปโอซาก้า จำนวน 200 คน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยโปรโมททริปทัวร์ จะบอกเสมอว่าเราขายสินค้าอาหารเสริม เมื่อสมาชิกเข้ามาซื้อสินค้า เราจะพาไปเที่ยว แต่เนื่องจากมีพ่อทีมแม่ทีมหลายสาย ไปชักชวนเพื่อนๆ มาจำนวนมากจนไม่สามารถตรวจสอบและควบคุมได้อย่างละเอียด”  น.ส.พสิษฐ์ กล่าว

Advertisement

น.ส.พสิษฐ์ กล่าวอีกว่ากรณีเหตุการณ์เมื่อวันที่ 11 เมษายน  มีการจองตั๋วเครื่องบินไว้เรียบร้อยแล้ว ได้แยกเป็นกลุ่มๆ ไว้ ซึ่งตนได้ให้ทางนายทุนที่อยู่ฮ่องกงเป็นคนประสานให้ และจะมีการจัดสรรที่นั่งมาให้ว่าแต่ละคนจะได้นั่งที่นั่งอะไร เที่ยวบินใด ทั้งนี้ ไม่ทราบว่าไม่สามารถเช่าเหมาลำจากประเทศไทยไปที่โอซาก้าได้ มาทราบทีหลังว่าต้องทำเรื่องจองล่วงหน้า 3-5 เดือน ส่วนเงินจากผู้เสียหาย 500 กว่ารายที่มาร้องเรียนที่ บก.ป. ไม่ได้อยู่ที่ตน แต่ถูกปรับเปลี่ยนไปในรูปแบบสินค้า ซึ่งการคืนเงินให้ผู้เสียหายต้องตรวจสอบก่อนว่าผู้เสียหายสมัครที่แม่ทีมคนใด และให้นำหลักฐานมายืนยันจึงจะคืนเงินได้

น.ส.พสิษฐ์ กล่าวเพิ่มว่า  สาเหตุที่ไปอยู่ระนอง ตอนแรกได้เตรียมตัวจะไปสนามบินแล้ว ซึ่งก่อนเดินทางไปได้ไลน์ไปคุยกับสมาชิกบางคนว่าจะไปถึงสนามบินประมาณเที่ยงคืน แต่สมาชิกไปถึงสนามบินเร็วกว่ากำหนดเวลาเดิมที่นัดหมายไว้ ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุการณ์โกลาหลอะไรที่สนามบิน แต่มีแม่ทีมได้ไลน์มาบอกว่าอย่าเพิ่งไปที่สนามบิน อาจจะมีปัญหาอื่นๆ ตามมา ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้หลบหนี แต่ได้ไปปรึกษากับเพื่อนว่ามีทรัพย์สินอะไรบ้างที่สามารถนำมาประกันตัวได้ และชดใช้ค่าเสียหายบางส่วนเท่าที่จะทำได้

น.ส.พสิษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับกรณีคลิปเสียง มีการนำสมาชิกของบริษัทเข้าเฝ้า และจะมีบุคคลพิเศษจากสำนักพระราชวังมาเป็นประธานเปิดงานให้กับบริษัทนั้น ทางออร์แกไนซ์ผู้จัดงานเป็นคนดำเนินการให้ทั้งหมด ระบุว่าจะทำหนังสือเชิญบุคคลสำคัญในสำนักพระราชวังมาเปิดงาน แต่ตนจำชื่อไม่ได้

Advertisement

ด้าน พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จะดำเนินการตามกฎหมายอาญา ให้เต็มที่ ส่วนการเรียกร้องค่าเสียหายเป็นทางแพ่ง ตำรวจไม่สามารถดำเนินการให้ได้ โดยหลังจากนี้จะควบคุมผู้ต้องหาไว้ 48 ชม. ก่อนจะควบคุมตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา รัชดาฯต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างแถลงข่าวผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ได้มาเฝ้าติดตามการแถลงข่าวและทวงถามว่าจะได้เงินคืนเมื่อใด พร้อมทั้งด่าทอ น.ส.พสิษฐ์ ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และระบายความคับแค้นใจออกมาว่า “คนไม่ถูกหลอกแบบนี้บ้างไม่รู้หลอก”

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image