เมื่อวันที่ 13 เมษายน รายงานงานข่าวแจ้งว่าคณะพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำผู้เสียหาย ทั้งในส่วนที่เดินทางมาที่กองบังคับการปราบปราม และแจ้งความที่อื่นๆ โดยในส่วนบก.ป.ขณะนี้มีผู้เสียหายกว่า 200 รายเดินทางเข้า โดยขั้นตอนหลังจากนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวมยอดผู้เสียหาย และมูลค่าความเสียหายทั้งหมดทั่วประเทศ
มีรายงานว่าจากการสอบปากคำ น.ส.พสิษฐ์ อริญชย์ลาภิศ หรือซินแสโชกุน ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี โดยเผยว่ามีการนำเงินกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ผู้เสียหายนำมาลงทุนไปแปลงเป็นทรัพย์สินอื่นๆหลายรายการ อาทิ คอนโดมิเนียม มูลค่า 2 ล้านบาท รถเบนซ์ 2.8 ล้านบาท รถยนต์หรูหลายคัน รวมทั้งทองคำ นอกจากนี้มีการนำเงิน 19 ล้านบาทนำไปใช้จ่ายในการจัดทัวร์พาสมาชิกเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศในช่วงแรกรวมทั้งได้มีการนำไปจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อสร้างภาพลักษณ์ สร้างความมั่นใจ และให้เกิดความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นลักษณะของการหมุนเงิน อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะต้องสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนว่าการทำธุรกิจลักษณะดังกล่าวสามารถทำกำไรได้จริงหรือไม่เพื่อนำมาประกอบสำนวน
ขณะเดียวกันทางบก.ปอท.อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์ของน.ส.พสิษฐ์ ซึ่งมีมากกว่า 6 เครื่อง ว่ามีเอกสารรายละเอียดสำคัญอะไรที่เชื่อมโยงและเป็นโยชน์ในคดีหรือไม่ อย่างไรก็ดีเมื่อคืนที่ผ่านมาทาง น.ส.พสิษฐ์ ได้อ้างว่ามีการจองเครื่องบินและตั๋วโดยสารที่ใช้ในการเดินทางไปทริปญี่ปุ่น โดยหลักฐานการจองอยู่ในอีเมล์ แต่จากการสอบปากคำอย่างละเอียด น.ส.พสิษฐ์ ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้มีการจองตั๋วโดยสาร และเครื่องบินแต่อย่างใด พร้อมอ้างว่าจำนวนผู้เดินทางมีมากกว่าพันคนทำให้จองไม่ทัน
มีรายงานอีกว่าบริษัทของ น.ส.พสิษฐ์ มีผู้หลงเชื่อสมัครสมาชิกมากกว่าพันคน ในการสมัครสมาชิกจะมีค่าใช้จ่ายในเบื้องต้น จากนั้นก็จะอยู่ตามโครงข่ายต่างๆ ซึ่งมีแม่ข่ายดูแลมากถึง 25 สาย ทั้งนี้อยู่ระหว่างการประสานให้เข้ามาให้ข้อมูล โดยวันนี้ได้แม่ข่าย 7 รายจาก 25 ราย เดินทางเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ซึ่งรายละเอียดอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนพบว่า ชินแสโชกุนได้มีการชักชวนดารานักแสดง บุคคลที่มีชื่อเสียง อาทิ “ติ๊ก” หรือนาย ฉัตรมงคล บำเพ็ญ ดารานักแสดงแนวละครพื้นบ้าน น.ส. เฮเลน ศรีเทพ นักแสดงอิสระ และดร.พล ภูผาวัฒนากิจ แพทย์ชื่อดัง เข้ามาร่วมในแผนประชาสัมพันธ์บริษัทเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ โดยในรายของนาย ฉัตรมงคล บำเพ็ญ นั้นมีการนำรูปภาพขณะเดินทางไปเที่ยวหัวหิน ซึ่งมีการเดินทางโดยเครื่องบินส่วนตัวแบบเหมาลำ ในส่วนของเฮเลน ศรีเทพ และดร.พล ภูผาวัฒนากิจ ปรากฏรูปภาพไปใช้ในเชิงลักษณะเชิญชวนไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ระหว่างวันที่ 11-16 เม.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งต้องเชิญมาให้ปากคำว่ามีการถูกนำไปแอบอ้างหรือไม่
นอกจากนี้ยังปรากฏภาพซินแสโชกุนถ่ายภาพคู่กับ น.ส.อุรัสยา เสปอร์บันต์ หรือญาญ่า รวมถึง มารดาของนางเอกสาวที่เป็นผู้จัดการส่วนตัว โดยจากนี้อาจจะต้องเชิญ บุคคลในภาพ เข้าชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า เป็นการขอถ่ายรูปด้วยธรรมดา ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว หรือไม่อย่างไร อย่างไรก็ตามชุดสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะต้องเชิญบุคคลเหล่านี้มาให้ปากคำในรายละเอียดหรือไม่
