เมื่อวันที่ 14 เมษายน นายธีรพล ขุนเมือง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า หลังจากจัดตั้งสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานเทคโนโลยีชั้นสูง 12 แห่ง ทั่วประเทศ นำร่องพัฒนาฝีมือแรงงานเทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อตอบโจทย์นายกรัฐมนตรีในเรื่องการพัฒนาคนให้ตรงกับความต้องการของพื้นที่ โดยร่วมกับภาคการศึกษาและเอกชน สำหรับแผนงานในอีก 6 เดือนข้างหน้า กพร.มีแผนที่จะลงนามความร่วมมือกับสถานประกอบกิจการกว่า 200 แห่ง ในเดือนพฤษภาคมนี้ เพื่อร่วมกันฝึกอบรมและเพิ่มทักษะฝีมือให้กับพนักงานในหลักสูตรที่รองรับเทคโนโลยีชั้นสูง โดยเน้นส่งเสริมสถานประกอบกิจการภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน
“6 เดือนแรก สถานประกอบกิจการให้ความร่วมมือดำเนินการฝึกอบรมพนักงานของตนเองแล้วกว่า 5 แสนคน และรับรองหลักสูตรการฝึกอบรมในสาขาที่รองรับเทคโนโลยีชั้นสูงอีก 1,371 หลักสูตร กลุ่มเป้าหมายที่จะดำเนินการ ไม่เพียงแรงงานที่อยู่ในสถานประกอบกิจการเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแรงงานใหม่ นักศึกษาปีสุดท้าย ประชาชนทั่วไป และผู้ว่างงานด้วย เป้าหมายดำเนินการกลุ่มนี้ในปี 2560 จำนวน 19,864 คน ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 10,371 คน สำหรับแรงงานใหม่ที่ผ่านการอบรมแล้ว พบว่ามีรายได้เฉลี่ย 11,971 บาท ส่วนแรงงานที่มีงานทำอยู่แล้วมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 237 บาทต่อเดือน” นายธีรพล กล่าวและว่า นอกจากนี้ ยังได้จัดทำโครงการฝึกอบรมทักษะอาชีพระยะสั้น โดยนำนักศึกษาอาชีวะในระบบทวิภาคี ระดับ ปวส.ปีที่ 2 ฝึกอบรมในสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานและในสถานประกอบกิจการ ในระหว่างปิดภาคเรียน เพื่อพัฒนาแรงงานใหม่ร่วมกับสถานศึกษาระดับอาชีวะให้มีความรู้ ทักษะและทัศนคติในการทำงานตรงกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ และได้แก้ระเบียบให้นักศึกษาปีสุดท้ายของระดับ ปวช.สามารถทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เพื่อให้สามารถเข้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างความมั่นใจให้กับสถานประกอบกิจการด้วย
นายธรพล กล่าวว่า สำหรับในปี 2561 กพร.ได้รับแจ้งจากสำนักงบประมาณ เบื้องต้นว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงานรองรับไทยแลนด์ 4.0 ตามจุดเน้นของแต่ละพื้นที่ ใน 12 สถาบันเทคโนโลยีชั้นสูง ในขณะที่ จ.ชลบุรี รับงบประมาณปี 2560 เพิ่มเติมอีก 35 ล้านบาท เพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดซื้อครุภัณฑ์สำหรับการฝึกอบรมเทคโนโลยีชั้นสูง
