กรมศิลปากรยังไม่ปักใจเชื่อว่าเพลิงไหม้เขตพระราชวังโบราณมาจากเหตุใด “ทุกประเด็นเป็นไปได้หมด”

เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายประทีป เพ็งตะโก รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยหลังจากเดินทางมาตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ศาลา ภายในวัดพระศรีสรรเพชญและเขตพระราชวังโบราณอยุธยา ว่า ได้มอบหมายให้ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ไปดำเนินการแจ้งความอย่างเป็นทางการตามระเบียบ และให้ความร่วมมือต่อตำรวจในทุกกรณี เพื่อจะได้เร่งรัดพิสูจน์ทราบ หาสาเหตุที่แท้จริงของเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งในส่วนของกรมศิลปากรเอง ยังไม่ปักใจเชื่อว่ามากสาเหตุใด เพราะมีความเป็นไปได้ทุกกรณี ตามที่ตำรวจและทางจังหวัดตั้งธงในประเด็นสงสัย

แต่สิ่งหนึ่งที่ตนเอง ไม่อยากให้เกิดขึ้น คือประเด็นการลอบวางเพลิง หรือเพลิงไหม้เกิดจากคนไปจุด เพราะจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต แต่อย่างไรก็ตาม ต้องแล้วแต่แนวทางการสืบสวนสอบสอบของตำรวจ ว่าจะระบุในสำนวนว่าอย่างไร

“ทั้งนี้จะต้องให้ผู้ชำนาญการด้านระบบไฟฟ้า มาร่วมตรวจสอบด้านเทคนิคด้วย เพราะว่าอาคารดังกล่าว ขอยกเลิกการไฟฟ้าไปแล้ว แต่ยังมีสายไฟ และเบรกเกอร์สะพานไฟ ซึ่งหากมีคนมาแอบมายก ต่อเชื่อมเบรกเกอร์ก็สามารถทำได้ ซึ่งทุกประเด็นมีความเป็นไปได้ทั้งหมด และคงต้องให้เวลาตำรวจในการทำงาน” นายประทีป กล่าวย้ำ

อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้ข้อมูลตำรวจว่า ครั้งแรกที่จะเข้าไปดับเพลิง ไม่สามารถเข้าในพื้นที่ได้ เพราะประตูสำหรับรถยนต์เข้าทางหลัก จากคลองท่อถูกปิดตาย ซึ่งตรงจุดนี้ปกติจะมี รปภ.เฝ้าตลอด 24 ชม.ทุกวัน แต่เมื่อคืนไม่มี และต้องรอเป็นเวลานานกว่า 10 นาที จึงจะมี รปภ.อีกชุด มาเปิดกุญแจดึงโซ่ล็อคออกรถดับเพลิง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image