“สารวัตรแรมโบ้” จี้สางคดีฆ่า 2 หนุ่มเขาค้อ เผยทำงานในโครงการฯ ตั้งทนายฟ้องแพ่ง-อาญาพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ

วันที่ 18 เมษายน 2560 จากกรณี นายสุภิสิทธิ์ วิชัยศิลป์ อายุ 20 ปี และนายคุณวุฒิ เชื้อบุญมี อายุ 23 ปี สองหนุ่มชาวเขาค้อ ถูกกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธมีดและไม้รุมทำร้ายจนเสียชีวิตและยังมีได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย ที่บริเวณป่าละเมาะกลางทุ่งนา ริมถนนบูรกรรมโกวิท หมู่ 12 ต.ป่าเลา อ.เมืองเพชรบูรณ์ ขณะเดินทางมาเล่นน้ำสงกรานต์ที่ถนนข้าวโพด เมื่อวันที่ 14 เมษายนและตำรวจจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 ราย

ล่าสุดเวลา 11.30 น. พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช ผกก.สส.ภ.จว.อำนาจเจริญ หรือ “สารวัตรแรมโบ้” ในฐานะรองประธาน บริษัท อุตสาหกรรมเกษตรเขาค้อ จำกัด ซึ่งดูแลโครงการพระราชดำริเขาค้อ พร้อมด้วย นางฐิติญ์ชญา เจษฎาเดช ผจก.บริษัทฯ และกลุ่มญาติผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวจำนวนราว 20 คน ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองเพชรบูรณ์ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับทาง พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ เรือนมูล ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ให้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายที่เหลือ และดำเนินคดีอื่นๆ ที่ต่างกรรมต่างวาระ เช่น คดีข่มขู่ผู้เสียหายผ่านเฟสบุ๊ค คดีอนาจาร ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุลวนลามหญิงสาววัย 17 ปี ที่มากับกลุ่มผู้ตาย และคดีทำร้ายร่างกาย ที่ผู้ต้องหาชกต่อยนางรัชนี เข็มเหล็ก มารดาของหญิงสาวที่ถูกลวนลาม

พ.ต.อ.สุรโชค กล่าวว่า ที่ตนมาในวันนี้ เพราะผู้ตายทั้งสองเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ที่ตนเป็นรองประธานอยู่ และได้รับมอบหมายจากท่าน พลเอก พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรีในรัชกาลที่ 9 และเป็นประธานบริษัทฯ ให้ติดตามคดี เพราะกลัวว่าผู้ก่อเหตุที่เหลือจะไม่ถูกดำเนินคดี จนญาติๆ ผู้ตายไม่พอใจถึงขนาดจะไม่เผาศพ และจะนำศพมาแห่ประท้วง แต่ตนก็ได้ขอร้องไว้ เพราะเชื่อมั่นการทำงานของตำรวจเพชรบูรณ์ และได้บอกกับกลุ่มญาติผู้ตายไปว่า เราต้องให้เวลาตำรวจทำงานด้วย

“คดีนี้มันโหดเหี้ยมและทารุณมาก ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นกับประเพณีสงกรานต์ บ่งบอกถึงความป่าเถื่อนของกลุ่มคนร้าย อาศัยพวกมากรุมคนที่มีกำลังน้อยกว่า และยังทำร้ายผู้หญิง ซึ่งเป็นสิ่งที่ใครก็รับไม่ได้ อีกทั้งยังมีการข่มขู่ผู้เสียหายอีกด้วย แทนที่จะสำนึก จนเกรงว่าเหตุการณ์นี้จะบานปลายไม่จบสิ้น ที่มาวันนี้เราต้องการให้ตามจับผู้ก่อเหตุที่เหลือ และดำเนินคดีอื่นๆ ที่ต่างกรรมต่างวาระด้วย เพราะพยานในเหตุการณ์ทราบว่า คนร้ายไม่ได้มีแค่ 2 คนอย่างแน่นอน” พ.ต.อ.สุรโชค กล่าวและว่า ตนจะตั้งทนายร่วมฟ้องอาญาและแพ่งเรียกค่าเสียหายหลายล้านบาทกับทางพ่อแม่ผู้ก่อเหตุ ให้คดีนี้เป็นอย่างที่ปล่อยปละละเลยให้บุตรหลานมาก่อเหตุ ทั้งที่เป็นประเพณีสงกรานต์ ที่ควรจะพึงกระทำแต่สิ่งดีๆ กลับกลายเป็นว่าประเพณีดีๆ ต้องมาเสื่อมเสียเพราะกลุ่มคนป่าเถื่อนไม่กี่คน ทั้งนี้หลังการยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ตนจะเดินทางไปสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 คนต่อที่เรือนจำ เพื่อสอบถามเหตุการณ์โดยละเอียด และถามถึงผู้ก่อเหตุรายอื่นๆ ที่ยังหลบหนีอยู่ด้วย

ขณะที่ในวันเดียวกัน ร.ต.อ.นพดล ม่วงน้อย รอง สว.สอบสวน เจ้าของคดี ได้เรียกสอบพยานคือกลุ่มผู้บาดเจ็บและเห็นเหตุการณ์ รวมทั้งสอบ น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) หญิงสาวที่ถูกลวนลาม เพื่อติดตามดำเนินคดีอนาจารกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ โดยคาดว่าหลังการเรียกสอบพยานทั้งหมดจะสามารถสรุปสำนวนส่งฟ้องอัยการได้ในราว 1 เดือน

ด้าน พ.ต.อ.ศรีทะนนท์ กล่าวว่า คดีนี้ที่ผ่านมา ตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยหลังเกิดเหตุสามารถติดตามจับกุมร้ายได้ 2 คน ภายใน 24 ชั่วโมง ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ในระหว่างการเรียกสอบพยานเพื่อขยายผลทางดี อยากจะบอกทางญาติว่า ไม่ต้องห่วง เราจะให้ความเป็นอย่างเต็มที่ ส่วนที่เป็นคดีต่างกรรมต่างวาระ หากพยานหลักฐานชัด พาดพิงถึงใครเราก็จะดำเนินคดีทันที.