พสกนิกรใช้โอกาสวันหยุด-เด็กปิดเทอม พาครอบครัวมากราบพระบรมศพครั้งแรกเป็นจำนวนมาก

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 22 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 171 ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศต่างเดินทางมาต่อแถวรอกราบสักการะพระบรมศพในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง พร้อมหอบลูกจูงหลานที่อยู่ในช่วงปิดเทอมมาด้วย แม้ว่าอากาศจะร้อนอบอ้าว โดยทางสำนักพระราชวังเปิดประตูวิเศษไชยศรีให้ประชาชนเข้าตั้งแต่เวลา 05.00 น. จากเปิดปกติเวลา 08.00 น. ขณะที่บริเวณหน้าประตูสรีสุนทร ตั้งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นประตูทางออกของพสกนิกรหลังกราบสักการะพระบรมศพ การนี้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำอาหาร ขนม ของว่าง และน้ำดื่มพระราชทานมาแจกจ่ายให้ประชาชน อาทิ ข้าวกะเพราปลาหมึก ข้าวไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย แฮมเบอร์เกอร์ปลา ข้าวผัดเผ็ดปลาดุก และมีน้ำดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน

นายนิรันดร์ วรรณเพชร อายุ 66 ปี ชาวจ.นครศรีธรรมราช ตั้งใจเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพหอบสัมภาระเต็มมือ เดินทางพร้อมภรรยาและหลาน โดยรถไฟออกจากจ.นครศรีธรรมราช วันที่ 21 เมษายน ราว 15.00 น. ถึงกรุงเทพฯ ในช่วงเช้าวันที่ 22 เมษายนนี้ ก่อนมาต่อแถวเพื่อกราบสักการะพระบรมศพ และจะเดินทางกลับในช่วงเย็นวันนี้ กล่าวว่า ตั้งใจจะมากราบสักการะพระบรมศพนานแล้ว เมื่อว่างจากงานและหลานอยู่ในช่วงปิดเทอมจึงเดินทางมาทันที ตั้งใจมากราบในหลวงรัชกาลที่ 9โดยเฉพาะ ซึ่งที่ผ่านมาพระองค์ท่านทรงงานเพื่อช่วยเหลือประชาชนไทยให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อย่างในพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช เคยมีปัญหาเรื่องน้ำกร่อยทำการเกษตรปลูกพืชไม่ได้ พระองค์ท่านได้ทรงแก้ไขปัญหาโดยการทำเขื่อนกั้นน้ำจืด น้ำเค็ม เกษตรกรปลูกพืชผลได้ อย่างส้มโอทองดี ซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกก็ปลูกได้ดี และพระองค์ยังช่วยแก้ปัญหาดินเปรี้ยวในจ.นราธิวาส คนนราธิวาสก็สามารถทำมาหากินได้

“ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นมากกว่าพ่อหลวง ทรงเป็นเทวดาในดวงใจของคนไทยทั้งชาติ พระองค์ทรงงานหนักเพื่อชาวไทยทุกอย่าง ผมเคยรับเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯมาเวียนเทียน และเยี่บมเยียนประชาชนที่วัดแก้วโกรวาราม กระบี่ ช่วงนั้นนครศรีธรรมราชทำการเกษตรไม่ได้ เพราะมีปัญหาน้ำกร่อย จึงได้มาออกเรือประมงที่กระบี่ โชคดีและเป็นบุญมากที่ได้ที่ได้มารับเสด็จ ซึ่งหลังจากนั้นพระองค์ก็ได้แก้ไขปัญหาทำให้สามารถทำการเกษตรได้” นายนิรันดร์กล่าว

นางลำไย ทองเต่าหมก อายุ 58 ปี ชาวจ.ขอนแก่น แต่อาศัยอยู่ย่านบางกรวย จ.นนทบุรี เดินทางพร้อมญาติและหลานรวม 10 คน เพื่อมากราบสักการะพระบรมศพ เปิดเผยด้วยความซาบซึ้งว่า ตนตั้งใจว่าจะมากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ทุกเดือน จนกว่าจะถึงวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยเดือนนี้เป็นครั้งที่ 7 แล้วที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพ หลังจากที่กลับบ้านที่ขอนแก่นในช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์วันก่อน ก็รีบมากราบพระบรมศพ เพราะต้องมาให้ทันก่อนสิ้นเดือน ขณะที่วันนี้ได้พาญาติจากจ.สกลนคร ที่อยากมากราบสักการะพระบรมศพมาก มากราบเป็นครั้งแรกและหลานๆ ซึ่งอยู่ในช่วงปิดเทอมมาด้วย

Advertisement

“ผมประทับใจทุกอย่างที่พระองค์ทำให้ประชาชนคนไทย ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นเทวดาเดินดิน เป็นบุคคลที่ไม่มีใครเหมือนหรือมาแทนได้ พระองค์ทำให้คนไทยอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเหตุการณ์เดือดร้อนรุนแรงเหมือนประเทศอื่น แม้มีเหตุการณ์น้ำท่วม พระองค์ท่านก็หาทางแก้ปัญหาทำแก้มลิงรับน้ำ” นางลำไยกล่าว

นางศรีมาย ศรีแดง อายุ 63 ปี ชาวกรุงเทพฯ จากย่านสะพานควาย มาพร้อมพี่สาว คือ นางบุญเรือน จำปากะนันท์ อายุ 72 ปี ชาว ต.ผาปัง อ.แม่พริก จ.ลำปาง กล่าวว่า พี่สาวมาเดินทางมาเยี่ยมที่กรุงเทพฯ จึงพามากราบพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 สำหรับตนเดินทางมากราบเป็นครั้งที่ 2 ส่วนพี่สาวเพิ่งได้มีโอกาสมากราบเป็นครั้งแรก รู้สึกปลาบปลื้มและตื้นตันใจน้ำตาไหล รักพระองค์มาก ดีใจที่ได้พาพี่สาวมากราบพระองค์ในวันนี้ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ เพราะพระองค์ทำทุกอย่างเพื่อคนไทยเหมือนทุกคนเป็นลูก ไม่อยากคิดถึงในวันที่ไม่มีพระองค์แล้วคิดถึงแล้วรู้สึกเศร้าใจคงเหงากันทั้งแผ่นดิน มีพระองค์อยู่คอยดูแลก็อุ่นใจ ทำนาก็มีน้ำใช้ ฝนแล้งก็มีน้ำกิน ก็จะนำคำสอนของพระองค์มาใช้ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะหลักเศรษฐกิจพอเพียง มาสอนลูกหลานให้อยู่อย่างประหยัด ขยันหมั่นเพียร และทำตามกำลังของเรา และตั้งจิตกันไว้ว่าในวันถวายพระเพลิงพระบรมศพพระองค์จะเดินทางมาให้ได้

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 21 เมษายน หลังปิดการขึ้นกราบถวายสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.07 น.ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 29,806 คน รวม 170 วัน มี 6,333,393 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,849,559.75 บาท รวม 170 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 513,565,199.76 บาท

Advertisement

 

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image