หล่มสักอ่วมหลังถูกพายุฤดูร้อยถล่มยับ บ้านทรงไทยทรุดพังทั้งหลายกลายเป็นเศษซากกองไม้ในพริบตา

เพชรบูรณ์-หล่มสักอ่วมหลังถูกพายุฤดูร้อยถล่มยับ บ้านทรงไทยทรุดพังทั้งหลายกลายเป็นเศษซากกองไม้ในพริบตา เจ้าของบ้านถึงกับหัวใจแทบสลาย เพราะเพิ่งสร้าง 4 ปีแถมติดจำนองเป็นหนี้แบงค์อีก

ความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุพายุฝนถล่มอ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ส่งผลให้มีบ้านเรือนและทรัพยสินทั้งในส่วนของราษฎรและส่วนราชการได้รับความเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 10 ตำบลรวมทั้งในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ล่าสุดวันนี้(24 เม.ย.) ทางเทศบาลเมืองหล่มสักและองค์กรบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ประสบวาตภัย รวมทั้งกองพันทหารม้าที่ 28 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและกำลังเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยรวมทั้งอาสาสมัครกู้ภัยต่าง ออกช่วยเหลือเก็บสิ่งของเครื่องใช้ให้กับราษฎรที่บ้านเรือนประสบวาตภัยทรัพย์สินได้รับความเสียหาย หลังจากเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ดังกล่าวได้พยายามช่วยเหลือจนดึก และเนื่องจากไม่สะดวกเพราะเป็นเวลามืดค่ำจำเป็นต้องยุติเป็นการชั่วคราว หลังจากนั้นจึงเริ่มดำเนินการต่อในเช้าในวันนี้

นอกจากนี้ล่าสุดนายชนก มากพันธุ์ ทางอำเภอหล่มสักแจ้งว่า ได้เตรียมประกาศให้พื้นที่ 11 ตำบลที่ประสบวาตภัยเป็นเขตภัยพิบัติแล้ว เพื่อเตรียมจัดสรรงบฯกลางลงไปช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แกราษฎร ในขณะที่พ.ท.เกียรติ อุดม นาดี ผบ.ม.พัน. 28 ก็ระบุว่า วันนี้จะระดมกำลังทหารราว 80 นาย เข่าไปช่วยเคลียร์พื้นที่และบ้านเรือนราษฎรที่ประสบวาตภัยและจำเป็นต้องเก็บคัดแยกทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายออก ขณะเดียวกันที่เทศบาลเมืองหล่มสักและเทศบาลตำบลตาลเดี่ยวรวมทั้งองค์กรบริหารส่วนตำบลในพื้นที่ประสบเหตุ ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัยเพื่อรับแจ้งความเสียหายที่เกิดจากเหตุวาตภัยในครั้งนี้แล้ว ส่วนพื้นที่ประสบวาตภัยที่อ.หล่มสักมีรายงานแจ้งว่ามี 11 ตำบล ได้แก่ ต.ตาลเดี่ยว,ต.หนองหนองไขว่, ต.สักหลง ,ต.บ้านหวาย,ต.ฝายนาแซง,ต.บ่นติ้ว,ต.น้ำก้อ, ต.ปากช่อง,ต.วัดป่า,ต.บ้านโสก,ต.หล่มสัก มีราษฎรได้รับผลกระทบรวม 1107 ครัวเรือนและล่าสุดยังอยู่ระหว่างสำรวจเพิ่มเติมอีก

ข่าวแจ้งว่า ขณะเกิดพายุพัดกระหน่ำปรากฏว่า บ้านเรือนทรงไทยใต้ถุนสูงซึ่งตั้งอยู่กลางแจ้งในเขตหมู่ 1 บ้านวังหิน ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสักได้ถูกลมพายุฝนพัดกระหน่ำใส่ กระทั่งทำให้บ้านทรุดพังลงมาทั้งหลังจนกลายสภาพเป็นเซษซากกองเศษไม้ไปในทันที่ ในขณะที่น.ส.จิตราภรณ์ ชัยเฉลิมศักดิ์ อายุ 38 ปีเจ้าของบ้าน ซึ่งขณะเกิดเหตุยังอยู่บนบ้านทรงไทยดังกล่าวได้และหลังจากลมพายุพัดกระหน่ำจนทำให้บ้านทรุดพัง ทำให้น.ส.จิตราภรณ์ตกใจและพยายามจะหลบหนีออกจากตัวบ้านแต่ไม่ทันทำให้ถูกเศษซากกองไม้ทับใส่ แต่โชคดีแค่ได้รับบากเจ็บเพียงเล็กน้อย หลังจากนั้นจึงพยาบาลคลานออกจากซากกองไม้ดังกล่าว กระทั่งญาติได้ช่วยนำส่งโรงพยาบาลหล่มสักล่าสุดอาการปลอดภัยแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว

Advertisement

ด้านนายศุภกร เบ้าสารี อายุ 34 ปี สามีน.ส.จิตราภรณ์ กล่าวว่า ช่วงเกิดพายุฝนรีบเร่งขับรถจักรยานยนต์มาจากร้านคาร์แคร์ในตลาดหล่มสัก โดยฝ่าพายุฝนและยังมีลูกเห็บตกมาอีกเพราะห่วงภรรยาและลูก ไม่คาดคิดว่าจะมาเจอสภาพบ้านทรงไทยถูกพายุพัดพังทั้งหลังจนกลายสภาพเป็นกองเศษไม้ โดยบ้านทรงไทยหลังนี้ปลูกได้ 4 ปีแล้วโดยเสาฝังดินราว 50 เซนติเมตรและเทปูนและมีเหล็กยึดเสาไว้อย่างแน่นหนา แต่ภรรยาบอกว่าช่วงเกิดเหตุลมพายุพัดม้วนมาเป็นช่อง 2 ระลอกๆแรกไม่เป็นไร แต่พอระลอก 2 บ้านทั้งหลังสั่นไหวก่อนจะทรุดพังลงกองเป็นเศษซากไม้ในพริบตา ตอนนี้ยอมรับว่ายังมึนๆไปไม่ถูกและยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เมื่อคืนทางทหารก็เข้ามาช่วยเหลือในเบื้องต้น ส่วนวันนี้ก็คงต้องคุยกับทางธนาคารกสิกรก่อนเพราะบ้านหลังนี้ยังติดจำนองอยู่

“บ้านทรงไทยหลังนี้สร้างได้ 4 ปีแล้วหมดเงินไปราว 2.5 ล้านบาทเศษ แต่เนื่องจากเงินไม่พอจึงนำไปจำนองกับธนาคารและผ่อนส่งกำหนด 25 ปี วันนี้ก็คงต้องไปพูดคุยกับทางธนาคารว่ามีประกันภัยคุ้มครองไว้หรือไม่ และคงต้องขอให้ทางธนาคารช่วยเหลือเนื่องจากเจอสภาพแบบนี้หัวใจแทบสลาย และยังแทบหมดเนื้อหมดตัวเลยทีเดียว”นายศุภกรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image