เมื่อวันที่ 24 เมษายน นายชาญเชาวน์ ไชยานุกิจ ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ดำเนินการตรวจสอบแผนประทุษกรรมของขบวนการแชร์ลูกโซ่ทั้งระบบ ตั้งแต่การชักชวนร่วมลงทุน ลักษณะการลงทุน การเสนอผลกำไร เพื่อนำสิ่งที่วิเคราะห์ได้ไปให้ความรู้กับประชาชนในเชิงการป้องกันอย่างเป็นระบบ โดยประสานกับกระทรวงพาณิชย์ และสำนักคุ้มครองผู้บริโภค ทั้งนี้ เป็นการทำงานเชิงระบบ โดยให้ทำข้อมูลพฤติกรรมย้อนหลังตั้งแต่ห้วง 10 ปีที่ผ่านมา จนกระทั่งปัจจุบัน เพื่อเป็นโมเดลในการแก้ปัญหา เพราะการกระทำลักษณะนี้ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น แต่รูปแบบวิธีการในยุคสมัยจะค่อนข้างเปลี่ยนไป ตามรูปแบบและเทคนิคการนำเสนอผ่านรูปแบบต่างๆ
นายชาญเชาวน์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้ไปพิจารณาในช่องว่างทางกฎหมาย ในประเด็นที่ประชาชนมีข้อสงสัยว่าธุรกิจที่จะร่วมลงทุนนั้นเข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่หรือไม่ ก่อนร่วมลงทุน ก่อนเกิดความเสียหาย เพราะที่ผ่านมาจะเกิดลักษณะว่ายังไม่สามารถตรวจสอบได้ ติดขัดในเรื่องข้อกฎหมาย ดังนั้น จึงเกิดความเสียหายก่อน การทำธุรกิจหรืออาชีพเสริม สามารถทำได้ แต่อยากให้ประชาชนวิเคราะห์หรือคิดถึงหลักความเป็นไปได้หรือไม่ ถึงการได้ผลตอบแทนอย่างถูกต้องและเป็นจริงตามหลักธุรกิจ คงไม่มีธุรกิจไหนให้ผลกำไรทันทีในเดือนแรก ร้อยละ 50 ของเงินที่ลงทุน แบบนี้คือสิ่งผิดปกติ ปัญหาของขบวนการเหล่านี้กว่าผู้เสียหายจะออกมาแจ้งความร้องทุกข์หรือเป็นคดี จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผลประโยชน์หรือผลกำไรไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ ซึ่งกลุ่มผู้เสียหายก็กลายเป็นเหยื่อของขบวนการแชร์ลูกโซ่ไปแล้ว
“อยากให้มีการแยกแยะระหว่างการทำธุรกิจกับขบวนการแชร์ลูกโซ่ การตรวจสอบการจดทะเบียนบริษัทต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องชัดเจนว่าเป็นธุรกิจแบบไหน แต่ไม่ได้หมายความว่าจำกัดการจดทะเบียน เพราะเราต้องการให้ธุรกิจเอสเอ็มอีและกลุ่มธุรกิจสตาร์ตอัพเติบโต ดังนั้น จึงต้องบูรณาการความคิดเพื่อหาแนวทางป้องกันร่วมกันอย่างเป็นระบบ” นายชาญเชาวน์กล่าว
