ขึ้นป้ายประตูท่าแพเป็นโบราณสถาน ชูอัตลักษณ์ล้านนา-กรุยทางเมืองมรดกโลก

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานประตูท่าแพมีการขึ้นป้ายข้อความระบุว่า ′พื้นที่นี้เป็นโบราณสถานและที่ราชพัสดุ ห้ามบุกรุกและทำลาย′ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนชาวเชียงใหม่ ผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน ตลอดจนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่แวะเวียนเข้ามาบันทึกภาพความสวยงามของ ′ประตูเมือง′ ที่ได้ชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่

นายหวาง นักท่องเที่ยวชาวจีน กล่าวว่า ปลื้มใจที่ได้มาท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ได้มีโอกาสมาถ่ายภาพที่ประตูท่าแพ โดยเฉพาะป้ายที่เขียนว่า ′ประตูท่าแพ′ ซึ่งเป็นโบราณสถานเก่าแก่คู่เมือง ก่อนหน้านี้มีเพื่อนบ้านมาเที่ยวและนำรูปไปอวดก็รู้สึกอยากจะมาบ้าง จำได้ว่าในภาพของเพื่อนมีเต็นท์และสายไฟรกรุงรังไปหมด แต่พอมาด้วยตนเองกลับพบว่าประตูท่าแพสวยกว่าที่เห็นมาก เป็นลานกว้างมีนกบินเป็นฉากหลังเหมือนที่เคยเห็นในโปสการ์ด ทำให้ถ่ายภาพออกมาสวยมาก จะรีบนำภาพขึ้นโซเชียลเพื่ออวดเพื่อนๆ มาตนพาครอบครัวมาถึงเมืองในฝันแล้ว

ผศ.คมสัน ธีรภาพวงศ์ นักวิชาการประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กล่าวว่า เอกลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่ คือ เสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่ ความเป็นโบราณสถาน โดยเฉพาะ Open Space หรือพื้นที่เปิดที่ต้องอนุรักษ์ เช่น ประตูท่าแพ แจ่งเมือง คูเมือง แต่ปัจจุบันรูปแบบการจัดกิจกรรมเปลี่ยนไป เราสัมผัสธรรมชาติลดน้อยลง หันไปเข้าห้างมากกว่า ไม่ใช่กาดหมั้วที่มีร่มพื้นเมืองสวยๆ อย่างในอดีต กลายเป็นเต็นท์สี่ขาวางคร่อมทางเดิน ยกตัวอย่าง ถนนคนเดิน ซึ่งไม่เอื้อต่อการเดินเข้าชมสินค้า เป็นวิถีชีวิตคนเมืองเข้ามามาก หรือที่เรียกว่า วงจรอุบาทว์มากขึ้น ในขณะที่ร่มเงาสีสันไม้ดอกไม้ใบไม่เหลือให้เห็น

“เชียงใหม่เป็นเมืองวนานคร เราควรเปิดให้ธรรมชาติเข้ามาหาเรา รอบคูเมืองคือสวนสาธารณะอย่างดี สวยงามมาก โดยเฉพาะในช่วงที่ต้นไม้ผลัดใบ ดอกไม้สวยงามมาก จึงอยากให้รักษาไว้ โดยเฉพาะสถาปัตยกรรมของเมือง ทั้งแจ่งเมืองเก่า 4 แจ่ง ประตูท่าแพ คันคลอง และคูเมือง ซึ่งจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้ จำได้ว่าเรามีข้อบัญญัติอยู่ 3 ส่วนในการดูแล ในเมือง รอบคูเมือง และคลองแม่ข่า ที่ควรรักษา เพราะมีกฎหมายคุม ซึ่งน่าจะรวมการขายของชั่วคราวด้วย เพราะเป็นตัวการลดทอนลักษณะสิ่งสำคัญที่เราต้องเก็บไว้ ยิ่งตอนนี้เรายื่นขอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จะต้องมีกรรมการมาตรวจ ควรจัดการอย่างจริงจังและถาวร ไม่ปล่อยให้เข้ามาขายของไปๆ มาๆ แบบนี้อีก” ผศ.คมสัน กล่าว

Advertisement

201602291531543-20021028190355 
ผศ.คมสัน กล่าวว่า ทราบข่าวว่า ตอนนี้ห้ามขึ้นไปขายของบนลานประตูท่าแพแล้ว เพื่อเตรียมการเฉลิมฉลองเชียงใหม่ 720 ปี จึงอยากฝากให้นำหลักคิดนี้ไปใช้ เพื่อให้เป็นลักษณะเฉพาะและต้องทำทุกพื้นที่ ไม่แค่ลานประตูท่าแพ ขอให้ยกเป็นเคสตัวอย่าง ก่อนที่จะเริ่มเละกันไปเรื่อย ด้วยการเปิดให้ใช้พื้นที่ทับถมอัตลักษณ์ที่ดีงามจนเกือบจะหายไป รีบนำวิกฤตเป็นโอกาสในการปรับปรุงให้หมดในจุดอื่น เพื่อเก็บสิ่งดีๆ ไว้ให้ลูกหลานได้เห็น 

รายงานระบุว่า วันเดียวกันที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการเชียงใหม่ พล.ต.กรีพล อุทิตสาร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จังหวัดเชียงใหม่ (ฝ่ายทหาร) นายยงยุทธ เรืองภัทธกุล ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่ ร่วมหารือร่วมกับตัวแทนพ่อค้าแม่ค้าย่านประตูท่าแพ (ถนนคนเดินวันอาทิตย์) กว่า 50 คน ที่เข้ายื่นขอความเป็นธรรมผ่าน หลังเทศบาลนครเชียงใหม่ซึ่งเก็บค่าเช่าที่มานาน แจ้งไม่ให้ขายของบนลานประตูท่าแพในวันอาทิตย์

นายปวิณ กล่าวว่า รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้น แต่จังหวัดเชียงใหม่จำเป็นต้องแก้ไขปัญหาให้ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากพื้นที่ลานประตูท่าแพขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ดังนั้นการดำเนินการใดๆ ในเขตโบราณสถาน ต้องขออนุญาตจากกรมศิลปากร จังหวัดเชียงใหม่ไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ จึงขอให้กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าดำเนินการขออนุญาตจากกรมศิลปากรเอง ซึ่งในขณะนี้ขอให้หยุดการค้าขายไปจนกว่าจะได้รับอนุญาตจากกรมศิลปากร

Advertisement

อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าในวันอาทิตย์ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เคยค้าขายในตลาดย่านไนท์บาร์ซ่า และตลาดขายสินค้าของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งมักจะมีแกนนำเป็นเจ้าของแผงและให้เช่าต่อๆ กันมา ซึ่งการค้าขายมักสร้างปัญหาให้กับพื้นที่ เพราะมักจะนำรถมาจอดขนส่งสินค้า แผงขายของรกรุงรังไม่สวยงาม ในขณะที่แต่ละช่วงเทศกาลต่างๆ ′เทศบาลนครเชียงใหม่′ ก็จะอนุญาตให้มีการนำสินค้าขึ้นมาขายบนลานประตูท่าแพแทบทุกเดือน บดบังทัศนียภาพที่สวยงามของโบราณสถานประตูท่าแพ จนกระทั่งเกิดกระแสต่อต้านและกดดันในโลกออนไลน์ นำมาซึ่งการประกาศงดใช้พื้นที่ของบนลานประตูท่าแพหลังเสร็จสิ้นเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2559 เป็นต้นมา 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image