เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คูคต จ.ปทุมธานี เตรียมออกหมายจับชาย อายุ 31 ปี ชาว จ.สิงห์บุรี หลังทำร้ายร่างกายลูกชายแท้ ๆ วัย 1 ขวบ 9 เดือน ที่ป่วยพิการทางสมอง โดยผู้เป็นแม่เข้าแจ้งความว่าสามีมักจะทำร้ายร่างกายลูกจนบาดเจ็บบ่อยครั้ง จนล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมาได้ตัดสินใจ อุ้มลูกน้อย พร้อมหลักฐานคลิปจากกล้องวงจรปิด ที่ที่พบว่าสามีทุ่มลูกชายลงพื้น จนได้รับบาดเจ็บ ปากแตก หน้าช้ำมีรอยแดง ส่วนบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบเตรียมยื่นมือเข้าช่วยเหลือครอบครัวอีกด้วย
แม่ของเด็กชาย เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่ตนได้ตั้งครรภ์ ก็ไปตรวจตามปกติ และคลอดลูกออกมาโดยเป็นความผิดพลาดของโรงพยาบาล จนทำใหลูกตนพิการทางสมอง แต่เรื่องนี้ทางโรงพยาบาลได้เจรจาจนเรื่องจบไปแล้ว และตนก็ไม่ได้ติดใจ เนื่องจากลูกมีอาการทางสมอง จึงต้องให้สามีที่ทำงานเป็นคนเดินจดมิเตอร์ไฟฟ้า ลาออกจากงานมาเลี้ยงลูก ส่วนตนทำงานเป็นพนักงานแบงค์ อยู่ย่านคลองสาม คลองหลวง จนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ลูกชายมักจะได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัสหลายครั้ง อาทิเช่น ดวงตาได้รับการกระแทกรุนแรง ขาหัก หน้ากระแทกอ่างอาบน้ำ ซึ่งทุก ๆ ครั้งที่ลูกบาดเจ็บมักจะอยู่ในความดูแลของสามี และทุกครั้งสามีก็จะอ้างว่าเกิดจากอุบัติเหตุ จากนั้นด้วยความสงสัยและกลัวว่าลูกจะได้รับบาดเจ็บอีกจึงได้ไปซื้อกล้องวงจรปิด ที่สามารถดูผ่านมือถือมาติดไว้ภายในบ้าน โดยสามีก็รู้ว่านำกล้องมาติด หลังจากนั้นลูกก็ไม่ค่อยได้รับบาดเจ็บเลย แต่ก็มีบ้างเป็นเล็กๆน้อยๆ
“จนล่าสุดเมื่อวันที่ 19 เม.ย. ตนเลิกงานกลับมาถึงบ้านก็พบว่าลูกมีอาการแปลกๆ เหมือนเจ็บที่ขา ตนจึงได้เปิดกล้องดูพบว่าสามีเคยจับลูกชายทุ่มลงพื้นที่ปูด้วยฟูก จนลูกชายมีอาการชักเกร็ง และขณะป้อนข้าวก็มีการตบปาก ใช้ช้อนทำร้ายลูกตลอดเวลา จึงได้พาลูกออกมาจากบ้านเพื่อเดินทางมาแจ้งความที่โรงพัก ส่วนสามีรู้ว่าตนมาแจ้งความก็ได้หลบหนีออกจากบ้านไป” แม่ของเด็กชาย กล่าว
ด้าน น.ส.ภัทรภร อุปริรัตน์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ปทุมธานี กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดปทุมธานีมีการดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวของเด็ก ดังนี้ คือ ประสานพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีสถานีตำรวจภูธรคูคตดำเนินคดีตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้อง ล่าสุดมารดาเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของครอบครัวจึงอยากประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฯเข้ามาดูแล -แนะนำการเลี้ยงดูของครอบครัวซึ่งครอบครัวมีศักยภาพและความพร้อมในการเลี้ยงดูบุตรทุกด้าน โดยทางทีมเห็นว่าหลังจากเกิดความรุนแรงเห็นควรนำเด็กเข้ารับการตรวจประเมินสุขภาพจิตที่โรงพยาบาลเด็ก
ขณะที่ พ.ต.ท.วรพันธ์ พิสุทธานนท์ รองผกก.สอบสวน สภ.คูคต กล่าวเปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เมษายน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ทำการออกหมายเรียกให้ตัวของพ่อเด็กเข้ามาพบเพื่อทำการสอบปากคำแล้ว แต่ทราบจากแม่เด็กว่าสามีหนีไปแล้ว และยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งในตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดธัญบุรี เพื่อเร่งติดตามตัวมาสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
