(29 ก.พ.59) เมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. พ.ต.ท.อุดร ขัดแก้ว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งจาก น.ส.อภิสรา ชาญชัย อายุ 19 ปี อยู่ที่หมู่ 1 ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา ว่า ได้มีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปีบุกเข้ามาพยายามที่จะขโมยรถยนต์ที่จอดไว้ภายในบ้านพัก แต่ได้เกิดการต่อสู้ทำให้คนร้ายใช้อาวุธมีดคัตเตอร์ที่เตรียมมากรีดเข้าที่บริเวณต้นแขนขาว ก่อนที่จะปีนรั้วข้ามกำแพงหลบหนีเข้าไปในป่ารกข้างทาง
โดยหลังจากที่รับแจ้งได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถจักรยานยนต์และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเมตตานครราชสีมา จำนวนกว่า 20 นายเดินเท้าค้นหาคนร้ายที่หลังจากเกิดเหตุได้มีชาวบ้านในละแวกนั้นได้ติดตามคนร้ายเข้าไปในป่ารกทึบข้างทาง ซึ่งเจ้าหน้าที่ค้นหานานกว่า 3 ชม.แต่ก็ยังไม่พบคนร้ายที่ประกอบเหตุดังกล่าว
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบ้านหลังดังกล่าวพบว่า บ้านได้มีการดัดแปลงเป็นร้านรับเชื่อมโครงเหล็ก ตั้งอยู่ภายในบ้านซีไซต์ วิลเลจ หมู่ 1 ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จ.นครราชสีมา พบร่องรอยการต่อสู้จนสิ่งของกระจัดจายอยู่ทั่วบริเวณ ใกล้กับพบรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีขาว มีคราบเลือดติดอยู่ที่บริเวณหลังคารถ ใกล้กันยังพบรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีเทา ล้มตะแคงอยู่ภายในบ้าน และยังพบ น.ส.อภิสราได้รับบาดเจ็บจากการถูกของมีคมกรีดเข้าบริเวณต้นแขนขวา และได้รับบาดเจ็บที่บริเวณศีรษะจากการถูกจับศีรษะกระแทกกับตัวรถ
น.ส.อภิสราเปิดเผยว่า ขณะที่อาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง ซึ่งตนเปิดประตูบ้านแบบเหล็กม้วนไว้เพียงครึ่งเดียว จากนั้นเดินเข้าไปล้างจานภายในครัวที่หลังบ้าน และได้ยินเสียงคล้ายคนกำลังเอาของแข็งงัดกับตัวรถเก๋งที่จอดไว้ในบ้าน จึงรีบวิ่งออกมาก็พบว่ามีคนร้ายเป็นอายุรูปร่างผอม สูงประมาณ 160-165 ซม. อายุประมาณ 30-40 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้า กางเกงยีนส์ขายาว ใส่รองเท้าคอมแบต สวมหมวกไหมพรมและถุงมือ กำลังใช้มีดคัตเตอร์พยายามที่จะงัดประตูรถเก๋ง จึงตะโกนให้คนช่วย โดยในจังหวะนั้นคนร้ายได้ใช้มีดคัตเตอร์จี้มาที่ตนบังคับให้นำกุญแจรถยนต์มาให้ แต่ตนเองก็ไม่ยอม และได้พยายามที่จะหยิบมีดปอกผลไม้ที่วางอยู่บนโต๊ะฟันที่แขนของคนร้าย แต่คนร้ายนั้นได้ต่อสู้เพื่อแย่งมีด ในจังหวะนั้นคนร้ายได้ใช้มีดคัตเตอร์กรีดเข้าไปที่บริเวณต้นแขนขวา ก่อนที่จะวิ่งหนีออกไปโดยตนเองจึงตัดสินใจที่จะวิ่งตามคนร้าย ทันใดนั้นคนร้ายได้หันกลับมาแล้วบีบคอตนเองก่อนที่จะจับตัวเหวี่ยงไปกระแทกกับรถจักรยานยนต์จนล้มลงแล้วก็จับศีรษะกระแทกกับรถจักรยานยนต์ ก่อนที่จะปีนรั้วกำแพงบ้านหนีเข้าไปในป่ารกข้างทาง ซึ่งในจังหวะนั้นได้มีเพื่อนบ้านออกมาเจอจึงได้พากันวิ่งติดตามคนร้ายไป ตนเองจึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว
