เดินหน้าจับ’บอส’ผู้ร้ายข้ามแดน ‘อัยการ’ลั่นมีเจ็ตส่วนตัวก็หนีไม่รอด ชี้ถอนพาสปอร์ตช่วยกดดันมอบตัว

เมื่อวันที่ 29 เมษายน นายอำนาจ โชติชัย อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัว นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญากรุงเทพใต้ ข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และขับรถในทางก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคล ไม่หยุดรถและให้ความช่วยเหลือตามสมควรแก่ผู้ได้รับความเสียหายและไม่แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ในทันทีว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะทำงานของอัยการในการติดตามตัวนายวรยุทธแล้ว โดยตนเป็นหัวหน้าคณะทำงานด้วยตนเอง เพื่อความรวดเร็วในการทำงาน ส่วนคณะทำงานที่มาร่วมนั้นต่างมีประสบการณ์ทำงานด้านนี้มาแล้ว แต่ไม่ขอเปิดเผยเนื่องจากเป็นเรื่องภายใน

อธิบดีอัยการสำนักงานต่างประเทศ กล่าวว่า สำหรับการขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดน ทางประเทศอังกฤษจะต้องพิจารณาใน 2 ประเด็นว่า เป็นคดีทางแพ่งหรือคดีการเมือง หรือเป็นคดีที่มีความผิดหรือไม่ ส่วนอีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องการเดินทางหลบหนีการติดตามตัวของตัวผู้ต้องหา ที่หลายฝ่ายกังวลว่าผู้ต้องหาจะเดินทาง โยกย้ายที่อยู่ ซึ่งในความเป็นจริงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้ผู้ต้องหาจะมีเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว แต่การเดินทางเข้าออกประเทศต่างๆ จะต้องผ่านการตรวจคนเข้าเมือง ในกรณีที่ทางการไทยขอตัวไป เมื่อทางประเทศอังกฤษรับเรื่องแล้ว แต่ในระหว่างพิจารณาผู้ต้องหาหลบหนีไปที่อื่น เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องตามหาหลักแหล่งที่อยู่ของตัวผู้ต้องหาว่าหลบไปที่ไหน ซึ่งคำขอตัวเป็นผู้ร้ายข้ามแดนที่ยื่นต่ออังกฤษจะยังคงอยู่ กรณีที่อังกฤษไม่ได้ส่งคำร้องคืนกลับมา การขอเป็นผู้ร้ายข้ามแดนก็ยังคงเดินหน้าต่อ เมื่อผู้ต้องหาเดินทางกลับประเทศอังกฤษ อัยการจะดำเนินการยื่นหนังสือใหม่เพียงแค่เปลี่ยนวันที่เท่านั้น เพราะรายละเอียดและเนื้อหาเป็นข้อเท็จจริงเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการเสนอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาเพิกถอนหนังสือเดินทางหรือไม่ นายอำนาจกล่าวว่า โดยหลักการแล้วการเพิกถอนหนังสือเดินทาง ผู้ที่รับผิดชอบคือกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อรับทราบข้อเท็จจริงว่ามีการหลบหนีออกต่างประเทศ คงจะต้องมีการพิจารณาว่าเข้าเงื่อนไขการเพิกถอนหรือไม่ แต่ทางอัยการสำนักงานต่างประเทศคงไม่ก้าวล่วงที่จะไปแนะนำหรือเสนอให้กระทำการเพิกถอนหนังสือเดินทาง เป็นเรื่องที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องพิจารณาโดยตรง โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องไปแจ้งให้กระทรวงการต่างประเทศทราบ แต่การเพิกถอนหนังสือเดินทางเป็นการกดดันตัวผู้ต้องหาให้มอบตัวได้ทางหนึ่ง ซึ่งกรณีที่นายวรยุทธตัดสินใจยอมมอบตัวกลับมาเข้าสู่กระบวนการในประเทศไทยย่อมสามารถทำได้อยู่แล้ว โดยเข้าไปมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วส่งตัวมาให้อัยการยื่นฟ้องต่อศาล

ส่วนอัยการจะคัดค้านการประกันตัวหรือไม่เป็นเรื่องที่อัยการเจ้าของสำนวนจะพิจารณา ในส่วนการทำหน้าที่ของอัยการสำนักงานต่างประเทศยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุด ขณะนี้ต้องรอพยานหลักฐานจากทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ครบถ้วนทั้งหมดเพื่อประกอบการยื่นคำร้องขอตัวนายวรยุทธเป็นผู้ร้ายข้ามแดนจากประเทศอังกฤษต่อไป

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image