เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่กองบังคับการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง 6 อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รอง ผบ.ตร.) พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชารยะ ผู้ช่วยผบ.ตร. เดินทางมากำชับมาตรการปราบปรามการค้ามนุษย์และดูแลความมั่นคง แก่ตำรวจ ตม.6 โดยมี พล.ต.ต.นิติพงษ์ เนียมน้อย ผบก.ตม.6 หัวหน้าตม.ทุกจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ร่วมประชุมรับนโยบาย
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่า บก.ตม.6 จับกุมนายมูฮัมเหม็ด สัญชาติพม่า ข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยปี 2556 เกิดคดีค้ามนุษย์ มีตำรวจเป็นผู้ต้องหา ในพื้นที่ จ.พังงา พบนายมูฮัมเหม็ด มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับกลุ่มบุคคลที่มีพฤติการณ์ค้ามนุษย์ จึงเข้าตรวจสอบ เบื้องต้นยังไม่ปรากฏหลักฐานการดำเนินคดี แต่พบว่าได้กระทำความผิดฐานทำงานผิดลักษณะตามที่ได้รับอนุญาต (เร่ขายโรตี) จึงได้จับกุมดำเนินคดีเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2556 และผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีเป็นบุคคลต้องห้าม
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวต่อว่า ต่อมาวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2559 เจ้าหน้าที่ ตม.จว.พังงา ออกตรวจสอบพื้นที่รับผิดชอบ พบบุคคลต่างด้าว และจำได้ว่าเป็น นายมูฮัมเหม็ด เคยถูกจับกุมและผลักดันออกนอกประเทศ จากการสอบถามบุคคลดังกล่าว แสดงตนว่าชื่อ นายมูฮัมเหม็ด พร้อมแสดงบัตรประจำตัวบุคคล และยอมรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับที่เคยถูกจับกุม จากการตรวจค้นที่พัก พบหนังสือเดินทางมีรอยตราประทับสีแดง ระบุว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นภัยต่อสังคม จึงจับกุมดำเนินคดีข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ควบคุมตัวส่ง ตม.จว.พังงา เพื่อผลักดันออกนอกประเทศ ต่อมากองบังคับการปราบปราม(บก.ป.)แจ้งอายัดตัวผู้ต้องหาดำเนินคดี ฐานร่วมกันค้ามนุษย์และกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการให้คนต่างด้าวหลบหนีไปจากที่ถูกกักตัว อีกคดีหนึ่ง จากพฤติการณ์ถูกขึ้นบัญชีต้องห้าม ไม่สามารถเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรได้ แต่ลักลอบเข้ามาทำงาน และอาศัยช่องโอกาสที่ทางราชการอนุญาตให้นายจ้างพามาขึ้นทะเบียน เพื่อขอรับบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย (บัตรสีชมพู) ทำให้สามารถทำงานอยู่ในประเทศ ถือว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวอีกว่าจากกรณีนี้เห็นช่องว่างของการออกบัตรสีชมพูว่ายังไม่มีการตรวจสอบฐานข้อมูลด้านความมั่นคง ที่อาจเป็นภัยความมั่นคง เป็นทางเล็ดลอดกลุ่มที่มีแบล็กลิสต์ จากนี้จะเสนอให้เชื่อมโยงฐานข้อมูลเพื่อตรวจสอบก่อนอนุญาตออกบัตร ทั้งนี้สั่งการตรวจสอบขยายผลถึงนายจ้าง ในคดีนี้ผู้ต้องหาอ้างว่าคือ นายเบ๊ รวมทั้งนายจ้างหรือเอเยนต์รับทำบัตรสีชมพูรายอื่นๆ ว่ามีการแจ้งเท็จ หรือมีการกระทำเป็นขบวนการเข้าข่ายค้ามนุษย์ ค้าแรงงานผิดกฎหมายหรือไม่ นอกจากนี้ให้ตม.ตรวจสอบการเข้าออกของต่างชาติอย่างเข้มงวด สืบสวนหาข่าวให้ลึก รัดกุม เข้มงวด กวดขันต่างชาติที่เข้ามาโดยมิชอบ มีพฤติการณ์เป็นภัยความมั่นคงรวมทั้งเกี่ยวข้องการค้ามนุษย์
ด้านพล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ กล่าวว่า ขอให้ตม.ประสาน ตำรวจภูธร ตำรวจน้ำ และสันติบาล สกัดกั้นการเข้าเมืองของต่างชาติโดยผิดกฎหมายและเน้นย้ำการสืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องกับการออกบัตร แรงงาน ต่างด้าว อาทิ กรมแรงงาน กรมการปกครอง ว่าปล่อยปละละเลย เกี่ยวข้องรู้เห็นกับการออกบัตรมิชอบ หรือหลบเลี่ยงเข้าเมืองผิดกฎหมายหรือไม่ และให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐอย่างเฉียบขาด ขณะที่การปราบปรามการค้ามนุษย์นั้น ปัจจุบันกำหนดให้เงินรางวัลแก่ผู้แจ้งเบาะแสและสืบสวนจับกุมได้จนถึงกระบวนการอัยการสั่งฟ้องคดีแล้วตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท ให้เป็นแรงจูงใจในการปราบปรามการค้ามนุษย์
