เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ทนายความและประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ ตำรวจสน.บวรมงคล ตั้งแต่ระดับสารวัตร(สว.) ถึงระดับผู้กำกับการ(ผกก.) กรณีค้าสำนวนยัดข้อหาผู้ต้องหาและเรียกเก็บเงินผู้ต้องหา 2.4 ล้านบาท พร้อมยื่นหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอ คลิปเสียง และหลักฐานการโอนเงิน ต่อนายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท.
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า สน.บวรมงคล ทำคดีลักพระพุทธรูปในวัดภคนีนาถวรวิหาร ย่านบางพลัด เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน 2557 มีนายสุพัฒนพงศ์ เตาลานนท์ หรือ นายอธิรินทร์ อัครเอกเวโรจน์ เป็นผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ โดยมีพระประสิทธิ์ โสภณ เป็นผู้เสียหาย ต่อมามีการจ่ายรวมกว่า 2.4 ล้านบาทให้กับทางตำรวจ ตั้งแต่ปี 2557 มีหลักฐานการโอนเงิน คลิปบันทึกการจ่ายเงินตามสถานที่ต่างๆ นอกจากนี้ จะนำนายสุพัฒนพงศ์ เข้าพบพล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในวันที่ 3 มีนาคม เพื่อให้ปากคำ และขอให้กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งย้ายตำรวจที่เกี่ยวข้องเพื่อไม่ให้ยุ่งกับพยานหลักฐาน และขอให้คุ้มครองพยานเนื่องจากมีการข่มขู่
นายอัฉริยะ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ยังพบการกระทำผิดร้ายแรง เนื่องจากมีการออกหมายจับนายสุพัฒน์พงศ์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2557 ในข้อหาร่วมกันลักพระพุทธรูป แต่ถูกดองสำนวนจนขาดสัญญาประกัน และยังหลอกใช้หลักฐานเท็จขออำนาจศาลตลิ่งชัน อนุมัติหมายจับใหม่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2558 โดยเปลี่ยนข้อหาเป็น ลักพระพุทธรูปเพียงคนเดียว
ด้านนายประยงค์ กล่าวว่า ในส่วนของ ป.ป.ท.จะพิจารณาว่าเรื่องนี้อยู่ในอำนาจการตรวจสอบดำเนินคดีของ ป.ป.ท.หรือไม่ และฐานความผิดใช่หรือไม่ หากอยู่ในอำนาจของ ป.ป.ท. จะสรุปเรื่องเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท. ให้ไต่สวน แต่ถ้าไต่สวนแล้วพบว่าอยู่ในอำนาจของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะเสนอเรื่องไปที่ ป.ป.ช. ต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของ ป.ป.ท. ในกระบวนการดังกล่าว คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณ 2 เดือน
