ผลตรวจลิงอ้วน พบไขมันสะสมช่องท้องอยู่ในสภาวะ”ลิงลงพุง”เตรียมพาฟิตเนส สัตวแพทย์ ชี้ผลเสียที่กินอาหารจาก คน

วันที่ 6 พฤษภาคม นส.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) ทำหนังสือรายงาน อาการและผลการตรวจสุขภาพของ ลิงอ้วนที่เจ้าหน้าที่นำมาจากพื้นที่บางขุนเทียน เพื่อรักษาอาการป่วย หลายอาการ โดยเฉพาะลักษณะรูปร่างอ้วนลงพุง จนขยับเขยื้อนร่างกายลำบาก เนื่องมาจากมีคนให้อาหากินมากเกินไป กับนายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่า ล่าสุดสัตวแพทย์ได้ทำการชั่งน้ำหนักลิงอ้วน ด้วยวิธีการต้อนลิงเข้ากรงแยก และชั่งพร้อมกรง พบว่าน้ำหนักเท่าเดิม คือ หักน้ำหนักกรงแล้วอยู่ในช่วง 27 กิโลกรัม สุขภาพโดยทั่วไป กินอาหารและ น้ำได้ปกติ ไม่มีพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความเครียด ผลการตรวจเซลล์เบื้องต้นสอบถามจากสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์แจ้งว่า เกิดจากโรคอ้วนที่มีไขมันสะสมบริเวณช่องท้อง และบริเวณผิวหนังหน้าท้อง เมื่อไขมันมีปริมาณมากส่งผลให้ท้องของลิงแสมมีลักษณะย้วยออกมาหรือ สภาวะลงพุง วิธีการที่ดีที่สุดคือการลดน้ำหนัก ทั้งนี้ให้รอผลการตรวจโรคติดต่ออีกครั้งจากสถาบันสุขภาพสัตว์ กรมปศุสัตว์ เนื่องจากในครั้งนั้นที่ทำการเอกเรย์พบว่าปอดอักเสบ

ด้าน นายสัตวแพทย์(น.สพ.)ภัทรพล มณีอ่อน สัตวแพทย์ประจำกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า วิธีการฟื้นฟูสุขภาพของลิงอ้วนตัวนี้ นอกจากควบคุมดูแลเรื่องอาหารแล้ว จะต้องกระตุ้นให้ลิงให้เกิดการเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกายมากยิ่งขึ้น โดยการเอาอาหารไปวางไว้ในที่ไกลออกไปจากที่ลิงเคยอยู่ประจำ เช่น บนต้นไม้ เพื่อให้ลิงได้เคลื่อนไหวตัวเองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจร่างกายโดยละเอียดว่า มีภาวะอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่ เช่น การทำงานของต่อมไร้ท่อผิดปกติ หรือภาวะมะเร็ง เป็นต้น

“แต่ที่เห็นได้ชัดจากกรณีของลิงอ้วนตัวนี้ก็คือ ผลของการที่กินอาหารของคนมากเกินไป คือลักษณะและอาการแบบลิงตัวนี้ จะไม่เกิดขึ้นกับลิงในป่า และกินอาหารตามธรรมชาติของมันเลย ในขณะที่ลิงตัวนี้ มีคนให้อาหารจนชินเป็นนิสัย ไม่ยอมเคลื่อนที่ไปไหน แบมือรออาหารอย่างเดียว กินอะไรเข้าไปในสิ่งที่ร่างกายไม่เคยชิน จนกระทั่งเป็นผลเสีย คนที่ให้อาหาร สัตว์ป่าก็เหมือนกับการกระทำทารุณกรรมสัตว์ทางอ้อม ไม่ใช่ความเมตตาต่อสัตว์เลย เพราะความเมตตาต้องทำให้ถูกที่ถูกทาง ไม่ใช่เอาอาหารคนไปให้สัตว์กิน กรณีลิงอ้วนตัวนี้เห็นชัดที่สุด”นส.พ.ภัทรพล กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image