รำลึก ‘เด่น คำแหล้’ หายตัว จี้เร่งสืบสวน ภรรยาเตรียมฟังศาลฎีกาพิพากษาคดีรุกที่พรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่วัดบ้านทุ่งลุยลาย ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) จัดงานรำลึกความทรงจำการหายตัว นายเด่น คำแหล้
นายเด่น คำแหล้ ประธานโฉนดชุมชนโคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เป็นแกนนำเรียกร้องการปฏิรูปที่ดินของชุมชน โดยได้หายตัวไปเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2559 ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุการหายตัวได้ แม้จะพบวัตถุพยานสำคัญ โดยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาพบเศษชิ้นส่วนกระโหลกพร้อมของใช้ในวันที่หายตัว แต่อยู่ในระหว่างการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ว่าเป็นชิ้นส่วนกะโหลกใคร

งานรำลึกจัดระหว่างวันที่ 7-8 พฤษภาคม มีการจัดเวทีเสวนาถึงปัญหาที่ดินชาวบ้าน รวมถึงร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมาน และบังคับให้สูญหาย และเส้นทางการต่อสู้ของนายเด่น คำหล้า โดยมึนอ-พิณนภา พฤกษาพรรณ ภรรยาบิลลี่-พอละจี รักจงเจริญ แกนนำกะเหรี่ยงแก่งกระจานที่หายตัวไปได้มาร่วมงานเสวนาด้วย
กิจกรรมในวันที่ 8 พฤษภาคมมีการทำบุญตักรบาตรช่วงเช้า จากนั้นเป็นการเสวนา “เด่น คำแหล้ กับปัญหาที่ดินในสังคมไทย” โดย นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ อดีตคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นายทวีศักดิ์ มณีวรรณ สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ และนายบุญเลิศ วิเศษปรีชา อาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

จากนั้นเป็นการอ่านบทกวีรำลึกถึงเด่น คำแหล้ มีพิธีบายศรี สู่ขวัญ เรียกขวัญนายเด่นและกลุ่มผู้จัดงานได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน

Advertisement

“ในวาระครบรอบ1ปีการหายตัวของนายเด่น คำแหล้ 3ปีการหายตัวของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ และ 13 ปีการหายตัวของทนายสมชาย นีละไพจิตร และอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน ถึงเวลาที่สังคมไทยต้องตระหนักถึงปัญหาการทรมานและบังคับสูญหาย เห็นความจำเป็นให้มีนโยบายและกฎหมายเพื่อแก้ปัญหา แม้ที่ผ่านมีมีการผลักดันร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการซ้อมทรมาน และบังคับให้สูญหายแต่สนช.ไม่ให้ผ่านกฎหมายดังกล่าว ซึ่งจะเป็นความหวังเดียวของครอบครัวผู้ถูกบังคับสูญหายในการเข้าถึงความยุติธรรม”

นางสุภาพ คำแหล้ ภรรยานายเด่น กล่าวว่า ตนและครอบครัวอพยพมาอยู่ที่โคกยาว ต.ทุ่งลุยลาย ตั้งแต่ราวปี 2510 จากนั้นปี 2525 ได้ปต่งงานกับนายเด่นทำกินในที่ดินร่วมกัน จากนั้น 3 ปี รัฐบาลดำเนินโครงการ “หมู่บ้านรักษ์ป่า ประชารักษ์สัตว์” ขับไล่ชาวโคกยาวออกจากที่ทำกินโดยจัดสรรที่ดินที่มีชาวบ้านถือครองอยู่แล้วไว้ให้ จึงไม่สามารถเข้าทำกินในที่จัดสรรได้ นายเด่นจึงนำชาวบ้านเรียกร้องสิทธิที่ทำกินเรื่อยมา โดยเสนอให้จัดทำโฉนดชุมชน ต่อมาเมื่อปี 2557 รัฐบาลมีนโยบายทวงคืนผืนป่า เจ้าหน้าที่จึงเร่งให้ชาวบ้านอพยพออก

Advertisement

“พ่อเด่นต่อสู้ทางอุดมการณ์มาตั้งแต่สมัยเป็นสหายช่วงปี2514 เข้าป่าเขตภูซาง เราไม่มีที่ทำกินจึงต้องไปเรียกร้องกับหน่วยงานภาครัฐ ทุกวันนี้ท้อแต่ไม่ถอย ยืนยันว่าจะสู้ต่อไป เราขอโฉนดชุมชนแต่เขาก็มาปักป้ายไล่ชาวบ้าน เราไม่ออกจนวันสุดท้ายที่พ่อเด่นโดนอุ้มหาย แกเป็นแกนนำพี่น้องชุมชนโคกยาว พอไม่อยู่ก็เดือดร้อนเพราะไม่มีผู้นำ ภูมิใจที่พ่อเด่นไปเรียกร้องสิทธิทำกินเพื่อพี่น้องคนจนให้มีอยู่มีกิน เราไม่มีลูกแต่ทำเพื่อคนอื่น ปีที่ผ่านมาเมื่อพ่อเด่นไม่อยู่ก็คิดถึง เราผัวเมียอยู่ด้วยกันก็คุยกันตลอดถึงพี่น้องชาวบ้าน คิดถึงมาก” นางสุภาพกล่าว

ทั้งนี้ ในวันที่ 9 พฤษภาคม นางสุภาพจะเดินทางไปฟังคำพิพากษาศาลฎีกาคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติภูซำผักหนาม ที่ศาลจังหวัดภูเขียว โดยนายเด่นและนางสุภาพเป็นจำเลยร่วม แต่นายเด่นได้หายตัวไป นางสุภาพจึงต้องไปฟังคำพิพากษาเพียงลำพัง ที่ผ่านมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 6 เดือน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image