หนุ่มวิศวกรชาวกาฬสินธุ์ สักการะพระบรมศพ ซาบซึ้งทรงเปลี่ยนแผ่นดินแห้งแล้งให้เป็นอีสานเขียว

ปรเมศวร์ แข็งแรง (ขวา)

เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งดำเนินมาเป็นวันที่ 189 ประชาชนจากทั่วประเทศพร้อมครอบครัว ใช้โอกาสวันหยุดนักขัตฤกษ์วิสาขบูชาแต่งกายชุดสีดำสุภาพมาต่อแถวรอกราบถวายสักการะไม่ขาดสายตั้งแต่ช่วงเช้ามืด ท่ามกลางฝนตกโปรยปรายเล็กน้อยตั้งแต่ช่วงเช้า

นายปรเมศวร์ แข็งแรง อายุ 36 ปี วิศวกรชาวกาฬสินธุ์ เดินทางจากบ้านที่ จ.สมุทรปราการ พร้อมภรรยา นางรัมภ์รดา แข็งแรง และคุณแม่ นางจงกลวรรณ คล้ายบุญมี มากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรก กล่าวว่า มีความตั้งใจว่าต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต และถือวันนี้ซึ่งเป็นวันหยุดและเป็นวันพระใหญ่มากราบพระองค์กันทั้งครอบครัวถือเป็นบุญของชีวิตด้วย เพราะความรักที่มีต่อพระองค์ เห็นพระองค์ทรงงานมาตลอดชีวิตของเรา

“จำได้ตอนเด็กๆ พระองค์เสด็จฯ ไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ แม้เห็นแค่ขบวนรถยนต์พระที่นั่งเคลื่อนผ่านผ่านก็ถือเป็นความประทับใจและเป็นภาพติดตาว่าแม้ถิ่นทุรกันดารแบบนี้ ถนนที่เสด็จฯ เป็นหลุมเป็นบ่อ จนชาวบ้านเรียกว่าถนนดิสโก้ แต่หลังจากนั้น 3 ปี พื้นที่แถวนั้นที่แห้งแล้ง ไม่มีอะไรเลย ก็ค่อยๆ เริ่มพัฒนา ทำถนนใหม่ มีอ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทำให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้และน้ำทำการเกษตร จนเรียกได้ว่าตอนนี้เป็นอีสานเขียวจริงๆ นอกจากนี้ได้นำหลักคำสอนและยึดพระองค์เป็นแบบอย่างในเรื่องของความประหยัดโดยเห็นจากทรงใช้รองพระบาทของพระองค์ ทรงใช้ยาสีฟันจนหมดหลอด หรือทรงใช้นาฬิกาข้อมือคาสิโอเพียงเรือนเดียว ดังนั้นสิ่งของใดที่เสียเราก็พยายามซ่อมเอามาใช้ใหม่ รวมถึงการทำงานที่เราเป็นวิศวกรต้องพบเจอกับคนงานที่เขาอาจไม่มีความรู้มากนัก แต่เราทำงานกับเขาด้วยความเมตตา ไม่แบ่งแยกชนชั้น และรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้ดีที่สุด” นายปรเมศวร์ กล่าว

นาง

Advertisement
พุุมริน (ที่สองจากขวา) -ฉันท์ชนก (ซ้ายสุด)

อายุ 41 ปี ชาวอ.เมือง จ.สมุทรปราการ มาพร้อมครอบครัว อาทิ ลูกสาว ด.ญ.ฉันท์ชนก หมีป่า อายุ 13 ปี มากราบพระบรมศพเป็นครั้งที่ 2 กล่าวว่า วันนี้สมาชิกครอบครัวหยุดและพร้อมใจกันมาแสดงความจงรักภักดีในหลวงร.9 ที่ได้พระราชทานโครงการพระราชดำริ ทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่างให้ประชาชนไปปฏิบัติใช้ ซึ่งตนก็น้อมนำมาปฏิบัติ อาทิ ใช้เงินอย่างมัธยัสถ์ ใช้ชีวิตพอเพียง ทำมาได้ 4 ปีแล้ว พบว่ามีเงินเก็บ และเงินใช้ในครอบครัวไม่ขัดสน จากแต่ก่อนไม่ค่อยรู้คุณค่าของเงิน
“จากนี้ตั้งใจจะเป็นลูกที่ดีของพ่อหลวง คิดดี ทำดี ดูแลพ่อแม่ และไม่เบียดเบียนผู้อื่น” นางพุมรินกล่าว

ขณะที่ ด.ญ.ฉันท์ชนก กล่าวว่า ประทับใจพระองค์ที่ทรงมีความคิดสร้างสรรค์ และทรงปฏิบัติพระองค์เป็นแบบอย่าง ซึ่งตนก็น้อมนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน อย่างเรื่องการใช้เงินประหยัด จะซื้ออะไรก็เก็บออมเอา สำหรับสิ่งที่อยากเพื่อพระองค์คือ จะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ในการทำตามความฝันที่อยากเป็นครูที่ดี เพื่อสร้างสังคมที่ดี

นิ่ม ตระกูลมั่งมูล

นายนิ่ม ตระกูลมั่งมูล อายุ 84 ปี ชาวอ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง เดินทางมาพร้อมครอบครัว กล่าวด้วยสีหน้าดีใจหลังได้เข้ากราบพระบรมศพเป็นครั้งแรกของชีวิตว่า เคยรับเสด็จในหลวงร.9 ที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง ซึ่งพระองค์เสด็จฯ ไปทรงงานและเยี่ยมราษฎร ตอนนั้นประทับใจมากเพราะตนรับเสด็จในแถวหน้าสุด ได้ก้มกราบพระบาทใกล้ๆ เมื่อพระองค์เสด็จฯ ผ่าน ประทับใจพระองค์ที่ทรงมีโครงการพระราชดำริเกี่ยวกับการเกษตร ดิน น้ำ ตนซึ่งเคยเป็นชาวนามาก่อนก็ได้รับประโยชน์จากโครงการของพระองค์เช่นเดียวกับเกษตรกรในหลายๆจังหวัด ฉะนั้นเพื่อตอบแทนพระองค์ ตนตั้งมั่นจะเป็นคนดี สอนลูกหลานให้เป็นคนดี รักกัน รวมถึงชวนไทยมารักกัน เพราะเรามีพ่อคนเดียวกัน

Advertisement

ทั้งนี้ สำนักพระราชวังสรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม หลังปิดเวลา 21.10 น. มีจำนวนทั้งสิ้น 35,026 คน รวม 188 วัน มี 6,890,981 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 1,880,930.25 บาท รวม 188 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 549,542,019.26 บาท

ทั้งนี้ เนื่องในพระราชพิธีวิสาขบูชาระหว่างวันที่ 9-10 พฤษภาคม และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในวันที่ 11 พฤษภาคม กองพระราชพิธี กองวัง ฝ่ายวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และฝ่ายประชาสัมพันธ์เผยแพร่สำนักงานเลขานุการกรม ได้แจ้งว่า ระหว่างวันดังกล่าวจะเปิดจำหน่ายบัตรเข้าชมพระบรมมหาราชวัง และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตั้งแต่เวลา 08.30-12.00 น. และงดเข้าชมภายในพระอุโบสถทั้งวัน

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image