เมื่อวันที่ 2 มีนาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.พยงค์ เอี่ยมสกุล รอง ผกก.สส.สน.จระเข้น้อย พ.ต.ต.โกวิท ผิวผ่อง สว.สส.สน.จระเข้น้อย นำกำลังเข้าจับกุม นายอุทัย มาไทย อายุ 27 ปี ชาว จ.ขอนแก่น นายธนู โพธิ์สุวรรณ์ อายุ 37 ปี ชาว จ.พระนครศรีอยุธยา และน.ส.สุทธิพร นวลเนตร อายุ 30 ปี พร้อมของกลางกุญแจมือ ยี่ห้อสมิท 1 อัน ชุดตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ 2 ตลับ บัตรประชาชนนายประยูญ อุบล 1 ใบ บัตรประชาชน นายณรงค์ ตีเหลา 1 ใบ สิ่งเทียมอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก หมวกแก๊ป มีสัญลักษณ์ตราโล่ 2 ใบ บัตรกดเงินสด ธนาคารกสิกรไทย 1 ใบ ป้ายแขวนบัตร มีสัญลักษณ์โล่เขน 1 อัน โทรศัพท์ 3 เครื่อง รถยนต์โตโยต้า ทะเบียน กว 9743 นครราชสีมา ยาบ้า 2 เม็ดเศษ ใบรับรองผลการตรวจสารเสพติดในปัสสาวะ จาก รพ.ลาดกระบัง กรุงเทพฯ หนังสือยินยอมให้ตรวจปัสสาวะ 1 ฉบับ โดยจับกุมได้บริเวณริมถนนลาดกระบัง (หน้าร้านประคองมิตร) แขวงและเขตลาดกระบัง
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 มีนาคม ตำรวจรับแจ้งว่ามีผู้เสียหายหลายรายมาร้องทุกข์ กรณีกลุ่มคนร้ายอ้างเป็นตำรวจและใส่กุญแจมือผู้เสียหาย ก่อนนำตัวขึ้นรถยนต์ ทะเบียน กว 9743 นครราชสีมา จากนั้นข่มขู่เรียกเอาทรัพย์สิน ตำรวจจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ พบรถยนต์ตรงกับที่รับแจ้งจอดอยู่ริมถนนลาดกระบัง (หน้าร้านประคองมิตร) จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบนายอุทัยและนายธนู ซึ่งรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยมี น.ส.สุทธิพร เป็นคนชี้เป้าหมายบุคคล ระหว่างนั้น น.ส.สุทธิพรโทรศัพท์เข้ามาพอดี ตำรวจจึงให้ผู้ต้องหาทั้งสองทำทีนัด น.ส.สุทธิพรมาเจอ ก่อนจะจับกุมตัวไว้ได้ จากนั้นจึงประสานผู้เสียหายมาชี้ตัว ได้รับการยืนยันว่าผู้ต้องหาทั้งสามร่วมกันข่มขู่เอาทรัพย์สินจริง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 รับสารภาพว่า น.ส.สุทธิพรคอยสังเกตพฤติกรรมบุคคลหากพบว่าข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จะโทรศัพท์แจ้งมายังนายอุทัย (ใช้นามแฝงว่าหมวดอุทัย) และนายธนู (ใช้นามแฝงว่าดาบเจี๊ยบ) ขับรถยนต์ (ของกลาง) มาพร้อมอ้างเป็นตำรวจก่อนใส่กุญแจมือผู้เสียหาย พร้อมใช้ปืนปลอมจี้บังคับให้ขึ้นรถ ก่อนจะใช้ชุดตรวจปัสสาวะตรวจ และข่มขู่เรียกเอาทรัพย์สิน โดยบางครั้งก็ได้เป็นเงินสด บางครั้งก็ให้โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย ก่อนจะนำเงินมาแบ่งกัน โดยทำมาแล้ว10 กว่าครั้ง
เบื้องต้นแจ้งข้อหา นายอุทัย,นายธนูว่าและน.ส.สุทธิพร ว่า “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้ ยอมให้หรือยอมจะให้หรือผู้อื่นได้ประโยชน์ในลักษณะที่เป็นทรัพย์สินโดยใช้กำลังประทุษร้าย หรือโดยขู่เข็ญว่าจะทำอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขู่ หรือของบุคคลที่สามจนผู้ถูกข่มขืนใจยอมเช่นว่านั้น, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพและร่างกาย” โดยเพิ่มข้อหานายอุทัย และนายธนูว่า “ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานและกระทำการป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองมิได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการ” ขณะเดียวกันเพิ่มข้อหา น.ส.สุทธิพร ว่า “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.จระเข้น้อยดำเนินคดีต่อไป
